วันที่ 17 พ.ค.2566 นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับท่าทีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ที่กลายเป็นประเด็นถูกพาดหัวข่าวเชื่อมโยงจนเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการพาดพิงไปถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าประเด็นที่ตนพูดถึงว่าอย่าไปก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่นเป็นการพูดถึงกระแสกดดันจากบุคคลบางกลุ่มที่เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ตัดสินใจเรื่องการโหวตนายกฯ เพราะแต่ละพรรคมีกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ไม่ต้องมีใครแนะนำหรือ มากดดัน เพราะการตัดสินใจในนามพรรคต้องมีมติพรรคมีความรับฟังความเห็นของผู้บริหารพรรค และเรื่องนี้ นายพิธา ก็ไม่ได้เป็นผู้กดดัน และไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่ตนหมายถึง และไม่มีประเด็นอะไรต้องไปวิจารณ์ ที่ผ่านมาก็ได้แสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล ที่ชนะเลือกตั้งมาได้โดยไม่มีข้อครหาเรื่องซื้อเสียง
"นายชวน กล่าวว่าขอประชาชนอย่าวิจารณ์หรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่นเดียวกับกรณีที่สื่อโซเชี่ยลมีเดีย บางสื่อ มีการใช้ภาพของตน และข้อความว่า ไประบุว่าจะร่วมเเต่กับประยุทธ์เท่านั้น พรรคอื่นเป็นโจรหมดในสายตาชวน ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และมีเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิด จนสร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและพรรคประชาธิปัตย์ ตนปราศรัยบนเวทีที่วงเวียนใหญ่ว่าพรรคการเมืองที่มีความเป็นสถาบันอย่างประชาธิปัตย์ต้องพร้อมที่จะเป็นทั้งรัฐบาลเเละฝ่ายค้าน ดังนั้นเราอย่าไปคิดว่าจะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว เราต้องพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วย ไม่ใช่ว่าพระมาชวนร่วมรัฐบาลก็ต้องเชื่อตามพระ หรือโจรชวนไปร่วมรัฐบาลก็ไปร่วมกับโจร เพราะการจะไปร่วมรัฐบาลเราต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ได้เป็นการพาดพิงไปถึงใครว่าเป็นรัฐบาลโจร หรือใครเป็นพระ ตามที่มีการตีความหมายกัน
"ส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจกับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจนตกเป็นเหยื่อวิพาษ์วิจารณ์ รวมถึงมีคนนำข้อความบิดเบือนเหล่านี้ไปแสวงหาประโยชน์ กับความเห็นต่างของตัวเองทำให้เพิ่มความขัดแย้งในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" นายชวน กล่าว