เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 พ.ค.66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.นิชนันท์ วังกะฮาด อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 10 จ.ชลบุรี พรรคก้าวไกล เข้ายื่นคำร้องต่อกกต. ขอให้สั่งให้การเลือกตั้งในเขต 10 จ.ชลบุรี เป็นโมฆะ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
โดย น.ส.เบญจา กล่าวว่า เนื่องจากหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นพบความผิดปกติ ในเขต 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบบัตรเลือกตั้งเกินมา จึงขอให้กกต. เปิดเผยข้อมูลการนับคะแนนส.ส. 5/18 ทั้ง 151 หน่วย
ด้านน.ส.นิชนันท์ กล่าวว่า เนื่องจากการนับคะแนนในเขตที่ 10 จ.ชลบุรี พบว่ามีคะแนนเกิน 4,995 คะแนน อีกทั้งเกิดข้อสงสัยว่าการนับคะแนนในเว็บไซต์ ECTREPORT หยุดชะงักชั่วคราว และการรายงานผลเป็นไปด้วยความล่าช้ากว่าพื้นที่อื่นๆ ในจ. ชลบุรี โดยตนได้เข้าไปสอบถามที่อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นจุดที่รวบรวมคะแนน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคะแนนยังไม่มี โดยตนได้กลับบ้านก่อน เนื่องจากเกิดอาการอ่อนล้า จนกระทั่งเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันถัดมา ได้เข้าไปดูการประกาศผลคะแนนที่หน้าอำเภอ โดยพบว่าคะแนนที่รวมมานั้นเกินกว่า 4,995 คะแนน ซึ่งเมื่อได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่กกต. พบว่ามีการลงคะแนนที่เป็นบัตรเสียผิด 7,229 ใบ และตนมองว่าบัตรที่เกินมานั้นไม่ใช่จำนวนที่น้อยๆ
น.ส.นัชนันท์ กล่าวต่อว่า คำชี้แจงของเจ้าหน้าที่กกต. ระบุว่าการรวมคะแนน และการเขียนคะแนนบนบอร์ดผิดนั้นฟังไม่ขึ้น จึงเกิดความไม่ไว้วางใจในการทำงานของกกต. ที่อ.สัตหีบ จึงอยากให้สำนักงานกกต. วินิจฉัยเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และอยากได้คำตอบว่าบัตรเสีย 7,229 กว่าใบ เกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่าไม่อยากให้เกิดการนับคะแนนใหม่ เพราะไม่เชื่อมั่นว่าบัตรที่อยู่ในหีบในขณะนี้ จะเป็นคะแนนตามจำนวนผู้มาใช้สิทธิจริงหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขต 10 หากการเลือกตั้งใหม่ ตนจะแพ้ก็ยินดียอมรับผล การที่ตนได้มาร้องในวันนี้ เกิดจากความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากคนจะแพ้ ก็ขอแพ้ด้วยความโปร่งใส
เมื่อถามว่า ระหว่างการนับคะแนนได้มีการทักท้วงหรือไม่ น.ส.นัชนันท์ กล่าวว่า ตนมีแค่ตัวแทนซึ่งเป็นชาวบ้านที่เข้าไปสังเกตการณ์ เพียงแค่ 30 หน่วย จาก 151 หน่วย ส่วนการรวมคะแนนที่หน้าหน่วยนั้น ทีมงานของตนได้สังเกตการณ์ถึงเวลา 02.00 น. อีกทั้งการรวมคะแนนทำในห้องสำนักงานไม่ได้เปิดเผย ซึ่งมองว่าไม่โปร่งใส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานกกต.ได้มีการชี้แจงในกรณีดังกล่าวแล้ว ก่อนที่พรรคก้าวไกลจะเข้ายื่นคำร้อง โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลผิดพลาดจริง ยืนยันว่าบัตรเสียมีจำนวนแค่ 2,234 ใบเท่านั้น ไม่ใช่จำนวน 7,229 ใบ ตามที่ได้เป็นข่าว