วันที่ 15 พ.ค.2566 นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. กล่าวถึงจุดยืนของส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหลังจากที่พรรคก้าวไกล ประกาศรวมเสียงกับเพื่อไทยและฝ่ายค้านเดิม รวม 5 พรรค 309 เสียง ว่า เมื่อพรรคเสียงข้างมาก รวมกันแล้ว แต่มีการระบุว่าจะให้เสียง ส.ว. ลงคะแนนให้ด้วยนั้น ตนเป็น ส.ว.มา4 ปีมองว่าเป็นไปไม่ได้ โดยพรรคที่จะเป็นรัฐบาลต้องไปหาเสียงให้ได้ 376 เสียงเองก่อน อย่ามาหวังพึ่งเสียง ส.ว. โดยจะไปเอาพรรคภูมิใจไทย มาร่วมก็ได้แล้ว เพื่อ ส.ว. จะได้ ปิดสวิตซ์ ส.ว. ไปเลย เพราะถ้าส.ว.มีการงดออกเสียง ก็จะทำให้เสียงไม่ถึง 376 อยู่แล้ว
"ยอมรับว่า ปัจจัยของส.ว. ไม่ใช่เรื่องเสียงที่ได้รับจากประชาชนหรือเสียงข้างมากอย่างเดียว เพราะต้องดูว่าใครตั้ง ส.ว.ชุดนี้มีที่มาอย่างไร ยอมรับ ส.ว. มีเสียงแบ่งเป็นกลุ่มๆ มีส.ว.อิสระ ไม่ถึง 20 คน เวลาลงมติจริง ก็ไม่รู้จะอิสระหรือไม่" นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ยกตัวอย่างที่มีข้อเสนอให้ตัดอำนาจมี 23 ส.ว. เห็นด้วย แต่กลุ่มนี้อาจงดออกเสียงในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และจะเอา 23 คนมาบอกว่าโหวตตามเสียงข้างมากไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง ไม่เช่นนั้นก็ผ่านไม่ได้ และถ้ารัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องไปหาพรรคอื่นมารวมให้ได้ 376 เพื่อเลือกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ซึ่งส.ว.ทุกคนมีอิสระ ส่วนตัวยืนยันว่ามีจุดยืนชัดเจนว่า ฝ่ายใดรวบรวมเสียงข้างมากได้เกิน 250 เสียง จะโหวตให้ฝ่ายนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็นคนของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ก็พร้อมโหวตให้ แต่กับส.ว.คนอื่นๆไม่กล้าการันตีจะคิดแบบเดียวกันหรือไม่