# นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐนนตรี หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 โดยประกาศจับมือกับอีก 5 พรรคเพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม จะทำให้มีเสียง 309 เสียง และเชื่อว่าส.ว.จะไม่ฝืนฉันทามติประชาชน
สำหรับประเด็นเรื่องการแก้ไขมาตรา112 นั้นนายพิธา ระบุว่า ขณะนี้ทุกเรื่องยังไม่คุยในรายละเอียดกับแต่ละพรรค เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 สามารถทำได้ในสภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้พรรคก้าวไกลมี 151 เสียง ถือว่าเกินที่สามารถเสนอได้ โดยใช้สภาเป็นตัวแก้ไข พูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะและละเมียดละไม
# น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดท่าทีการร่วมจับขั้วรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลได้คุยโทรศัพท์แล้ว โดยได้แสดงความยินดีต่อกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ส่วนรายละเอียดในการเข้าร่วมรัฐบาลนั้นจะพูดคุยกันอีกครั้ง
น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่าประเด็นการกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนายทักษิณ จะกลับประเทศไทยภายในเดือนกรกฎาคม นี้ ส่วนประเด็นเรื่องมาตรา 112 นั้นพรรคมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่ยกเลิก แต่พูดคุยกันในสภาผู้แทนราษฎรได้
# นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวสรุปภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ พร้อมขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ร่วมออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ว่า การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ 52,238,594 คน
คิดเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ 75.22% ถือว่าเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่กกต.เคยจัดการเลือกตั้งมา 7 ครั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 74.87%
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็นข้อมูล ณ เวลา 09.00 น. ของวันที่ 15 พ.ค.66 ดังนี้ ส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคการเมืองที่ได้คะแนนสูงสุด คือ พรรคก้าวไกล 112 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยได้ 112 ที่นั่ง ภูมิใจไทยได้ 68 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 39 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติ 23 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 22 ที่นั่ง ชาติไทยพัฒนา 9 ที่นั่ง ประชาชาติ 7 ที่นั่ง ไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง เพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง ชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง
แบบบัญชีรายชื่อ มีพรรคการเมืองที่ได้ส.ส.ไปทั้งหมด 17 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 ที่นั่ง เพื่อไทย 29 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติ 13 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง ประชาชาติ 2 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง เสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง ไทยสร้างไทย 1 ที่นั่ง ประชาธิปไตยใหม่ 1 ที่นั่ง พรรคใหม่ 1 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง ท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง พรรคเป็นธรรม 1 ที่นั่ง ชาติไทยพัฒนา 1 ที่นั่ง พลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง ครูไทยเพื่อประชาชน 1 ที่นั่ง
# นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบข้อถามสื่อถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้เป็นรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เปรยอะไร แต่ตนเองคิดว่าท่านอาจจะต้องพอแล้ว ท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้ว
" และวันนี้ท่านก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ 7-8 ปีที่เป็นนายกฯ ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็รู้ว่าท่านนายกฯได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศมามากมาย และไม่มีเรื่องเสียหายหรือเรื่องคอรัปชั่นกับตัวท่านเลย และผมเชื่อว่าอย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์หรือลุงตู่ยังอยู่ในใจคนไทยไปอีกยาวนาน"
# นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงจุดยืนของ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อพรรคเสียงข้างมากรวมกันแล้ว แต่มีการระบุว่าจะให้เสียง ส.ว. ลงคะแนนให้ด้วยนั้น ตนที่เป็น ส.ว. มา4 ปีมองว่าเป็นไปไม่ได้
โดยพรรคที่จะเป็นรัฐบาลต้องไปหาเสียงให้ได้ 376 เสียงเองก่อน อย่ามาหวังพึ่งเสียง ส.ว. โดยจะไปเอาพรรคภูมิใจไทย มาร่วมก็ได้แล้ว เพื่อ ส.ว. จะได้ปิดสวิตซ์ ส.ว. ไปเลย เพราะถ้า ส.ว.มีการงดออกเสียง ก็จะทำให้เสียงไม่ถึง 376 อยู่แล้ว