เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 พ.ค.66 ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 31 เขตเลือกตั้งที่ 1 วัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.ในเมือง นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา พร้อมนางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาด จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาใช้สิทธิในลำดับที่ 54 และ 55 โดยมี พ.ต.ท ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.จ.) นครราชสีมา พ.ต.อ ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง
ในขณะเดียวกันที่หน่วยเลือกตั้งที่ 169 เขตเลือกตั้งที่ 1 วัดหลักร้อย ต.ในเมือง อ.เมือง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) พร้อมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ น้องชายซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส เขต 1 ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยนายสุวัจน์ มีรายชื่อผู้มีสิทธิ์อยู่ในลำดับที่ 250 และนายเทวัญ ลำดับที่ 251 ซึ่งทั้งสองต้องยืนต่อแถวรอใช้สิทธิ์ เนื่องจากมีผู้มาใช้สิทธิ์ก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมาก
นายสุวัจน์ฯ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยดี ซึ่งตนเองก็ต้องกลับไปรอลุ้นผลการเลือกตั้งอยู่ที่สำนักงานพรรคฯ อ.เมืองนครราชสีมา ทั้งนี้สำหรับผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน และเราก็จะไม่ไปขัดแย้งกับพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าช่วงหาเสียงจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็เป็นบรรยากาศของการแข่งขัน เมื่อการแข่งขันจบแล้ว เราต้องยอมรับผลการตัดสิน ก่อนการเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่หลังจากเลือกตั้งไปแล้วเป็นเรื่องของบ้านเมือง
ส่วนจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น ตนเองพูดย้ำอยู่ตลอดว่า เราต้องการเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยความสงบเรียบร้อยตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับที่ 1 ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะถือว่าพรรคดังกล่าวได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชนแล้ว เราต้องเคารพฉันทามติของพี่น้องประชาชน
กรณีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น ตนไม่เห็นด้วยการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะทำให้ขาดเสถียรภาพทางการเมือง ไม่เป็นคุณประโยชน์กับประเทศ อีกทั้งเป็นการเพิ่มวิกฤติให้อีกไม่ว่าจะทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย “ถ้าทุกฝ่ายเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ควรจะสนับสนุนแนวทางที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยโดยให้พรรคที่ได้อันดับที่ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ตนเห็นว่าถ้าจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ควรมีอย่างน้อย 300 เสียงขึ้นไป ซึ่งต้องรอจับตาดูหลังจากการเลือกตั้งไปแล้ว นายสุวัจน์ฯ กล่าว