“สยามรัฐ”ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหาร หํปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*...

ศรพระราม ปั่นต้นฉบับล่วงหน้าเพราะมีภารกิจต้องบินไปอุบลฯ  แต่มอนิเตอร์บรรยากาศ การเลือกตั้งล่วงหน้าหลายพื้นที่คูหาแตก!! ประชาชนตื่นตัว แห่แหนกันออกไปใช้สิทธิกันระเบิดระเบ้อทั่วประเทศ …*…

2.3 ล้านคนที่ลงทะเบียนไว้ จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 52 ล้านคน คิดเป็น 3.8 % ของทั้งหมดถ้าไปลงคะแนนทุกคน ถือว่า “ชี้เป็น ชี้ตาย”ได้ทีเดียว …*…

 แต่ช่วงนี้คนรอบข้าง บรรยากาศในหลายครอบครัว จากที่เราเคยได้ยินปัญหา คน 2 ขั้ว  2 วัย  ฝั่งหนึ่งเหลือง ฝั่งหนึ่งแดง แต่วันนี้ “พ่อแม่แดง” ต้องขัดแย้งกับ “ลูกส้ม”…*…

 แต่ไม่ว่าอย่างไร ภายใต้การอยู่ร่วมกันในสังคม ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ลูกจะไปบังคับหรือลากจูงพ่อแม่ให้เลือกตามใจ ก็ไม่ควร พ่อแม่จะไม่ให้อิสระลูกก็ไม่ได้ ในครอบครัวควรพูดคุยเรื่องการเมืองกันได้ ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม คิดต่างกันได้ แต่อย่าด่าทอหรือทำร้ายกัน …*…

กระแสที่มาแรงของก้าวไกล จากผลโพล วันก่อน “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวิสิน  ไปปราศรัยที่โคราช ให้สัมภาษณ์สื่อว่า หลายโพลก็สำรวจเพียง1,000-2,000 ตัวอย่าง เราควรเอาโพลที่สำรวจเป็นแสนคนมาเป็นตัวชี้วัดดีกว่า และยังเชื่อว่ากระแสของพรรคก้าวไกล สู้ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยไม่ได้…*…

“ส่วนจะทำให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่ว่าแลนด์สไลด์หมายความว่าอะไร แต่ถ้า 200 เสียงกลางๆ ยังเชื่อว่าทำได้อยู่ เรายังคิดว่ามา 280 เสียงอยู่ ตนมั่นใจ”…*…

ขณะที่คนในเพื่อไทย มองว่า ส.ส.เขตชนะได้อยู่แล้ว แต่ในส่วนคะแนนพรรค อาจถูกแบ่งให้ก้าวไกลและฝั่งลุง ดังนั้น ช่วง 5 วันสุดท้าย เพื่อไทยจะ “ล็อกเป้า”เลือกทุ่มสรรพกำลัง ยกทัพใหญ่ไปในพื้นที่ที่คะแนนส.ส.เขตยังสูสีหรือเป็นรอง ขณะที่เล็งเจาะพื้นที่จังหวัด ที่มีคนอีสานย้ายถิ่นฐานไปปักหลัก ด้วยมั่นใจว่า เพื่อไทยยังมัดใจ “คนอีสาน” …*…

ขณะที่ ไถติ๊กต็อก ช่วงนี้เจอ “สาวๆรักลุง” แฟนคลับลุงตู่ขึ้นฟีดกันเยอะมากแล้ว หนุ่มๆ อีกปรากฎการณ์คือ หนุ่มคนหนึ่ง บอกพ่อแม่อายุ 70 เทให้ก้าวไกล ส่วนตัวเค้า(ลูก)อายุไม่เกิน 30 อยู่กับลุง ตัดมาที่กลยุทธ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ โค้งสุดท้ายปล่อยคลิปฉบับเต็ม “คุยกับลุง” ฟังความในใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บางช่วงบางตอนพูดถึงเหตุผลการทำรัฐประหาร …*…

“ผมทนเห็นประชาชนบาดเจ็บล้มตายแบบนั้นไม่ได้ ผมจึงตัดสินใจ และผมไม่ได้ปรึกษาใครด้วย ผมตัดสินใจของผมเอง ผมคิดแล้วคิดอีก นอนไม่หลับตั้งหลายเดือน เป็นเดือนๆ แล้วผมก็ไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐบาลเขาเลย ผมก็คุยกับเขามาตลอด แต่จะให้ผมไปเข้าข้างใครไม่ได้ เพราะตอนนั้นมันบานปลายไปเยอะแล้ว สองฝ่ายคนมันเยอะมหาศาล แล้วผมไปปราบข้างไหน ผมก็หยุดทั้งสองข้างไปเลย”…*…

งานนี้ เรียกว่า “วัดดวงกันไปเลย” ว่า  จะถูกกวาดตกเวทีได้กลับบ้าน หรือเป็นแรงส่งให้กลับคืนสู่ทำเนียบฯ …*…

ที่มา:ศรพระราม (9/5/66)