“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน "นิคฺคณฺเห นิคฺคหาร หํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ" แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…
คลอดแล้ว!! “น้องธาษิณ” หลานคนที่ 7 ของ “คุณตาโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร จากคุณแม่ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ที่ตามตำราว่าเด็กเกิดวันนี้ คือวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ จะเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็ง รักความก้าวหน้า เป็นนักธุรกิจก็ดี งานอิสระก็ดี …*…
ส่วน “ทักษิณ” ที่โลว์โปรไฟล์ ปิดไมค์ไปพักใหญ่ ก็ถือฤกษ์เกิดของหลานชาย ร่อนสารผ่านเฟซบุ๊ก “ขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆนี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”…*…
อา…จังหวะมันได้ ไม่วายฉวยจังหวะหาเสียง กระชุ่นแฟนคลับ หลังก้าวไกลไล่จี้มาติดๆ แต่ด้วยความเคารพ จะต้องมาขออนุญ่ง อนุญาตอะไรกันเนี่ย และขออนุญาตใครกันเหรอ? ในเมื่อจะกลับมาเมื่อไหร่ก็กลับได้ วันนี้ พรุ่งนี้ เอาจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็กลับได้ ทำไมไม่กลับมาเอง ราชทัณฑ์เขาล้างคุกรอนานแล้ว ก็มาดิคร้าบ…*…
นี่ว่าทางฝั่ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คงจะกวักมือเรียกเหยงๆ อยู่นะ จะได้มาช่วยหาเสียงให้ “ลุงตู่” ในช่วงโค้งสุดท้ายพอดีเลย…*…
จะว่าไป ลีลาหาเสียงของ “ลุงตู่” นี่ก็ไม่เบานะ วันก่อนยังเป็น “กัปตันแก่” ขับเครื่องบินประเทศไทย โชว์ความเก๋า บลัฟนักบินวัยรุ่นอยู่แท้ๆ วันนี้ปรับโหมดใหม่ อ้อนแฟนคลับเรียกพี่ได้ไหมซะแล้ว …*…
“บางทีหน้าไม่หล่อ แต่ตัวจริงหล่อไหม คราวหลังเรียกพี่ตู่ ใจยังเป็นพี่ตู่อยู่ ถึงกายจะเป็นลุงตู่ แต่ใจเป็นพี่ตู่เสมอ เพราะกำลังใจจากพวกเรา ทุกเสียงทุกคนที่รักประเทศไทยไปพร้อมกับพี่” …*…
“ทุกปัญหาถ้าคนที่ไม่เคยเข้ามาบริหาร จะมั่นใจไหม และมั่นใจกับคนขับรถคนเดิมนี้หรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าขับเครื่องบิน เดี๋ยวโดนด่าอีก วันนี้เราลดลงมาเป็นรถยนต์ ถ้าเป็นนักบินเขาก็บอกแก่แล้ว ลงมาได้ เป็นแก่ๆ เขาไม่เอา แต่เป็นครูสอนการบินไง ใช่ไหม วันนี้เอารถยนต์ก็แล้วกัน หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ได้”…*…
ส่วน “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ค่อยๆเปิดไต๋ออกมาแล้ว ล่าสุดไต่ระดับจากภูมิใจไทย ท้ารบทั้งขั้วรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทยและ ไทยภักดี เรียกว่า เหมายกยวง…*…
แต่ก็อย่างว่า กระแส “เฮียชู” อาจมีผลในบางพื้นที่ เช่น กทม. และภาคใต้ แต่การเลือกตั้งประเทศไทย ต้องยอมรับความจริงว่า มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการปลุกให้เลือกตั้งในเชิงยุทธศาสตร์ อย่างที่ฝ่ายตรงข้ามของ “ทักษิณ” ต้องการให้ “ลุงตู่” ชนะขาด อีกทั้งนอกจากจะกระแส ยังมีกระสุน และที่สำคัญ คือการ “แบ่งเขตเลือกตั้ง” ซึ่งมีความได้เปรียบเสียเปรียบ ขนาดผู้สมัครส.ส.บางคน ยังโดนจับแยก กาบัตรเลือกตัวเองยังไม่ได้เลย…*…
ส่วนเวทีประกวดนางงามสายฟาด ไม่เกินความคาดหมาย ในรอบไฟนอล ให้พิธีกรตั้งคำถาม ที่ลากเอา 2 ลุงไปด่าบนเวที นางงามส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์อะไรเท่าไหร่ แต่ได้โชว์ลีลาแซะ เพื่อความสะใจ ให้กับคนบางกลุ่มบางฝ่าย แต่ปากเจ้าของเวทีก็ท่อง “ประชาธิปไตย” นะ อยากรู้จริงๆว่า ถ้ามีนางงามโผล่ เชียร์ลุงขึ้นมา จะถูกปัดตกไหม!? …*…
จุติ ไกรฤกษ์ แห่งรวมไทยสร้างชาติ พูดไว้ชัดที่สุด ว่า “คำถามที่พุ่งตรงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมมีคำตอบที่ผู้เข้าประกวดต้องการเอาใจผู้จัด จึงเป็นคำตอบด้านเดียว ขาดข้อมูลที่สำคัญอีกด้านอย่างชัดเจน อีกทั้งคำตอบของผู้เข้าประกวดบางคน ยังแสดงทัศนคติเชิงลบในการดูหมิ่นเหยียดหยามที่เรียกว่า "บูลลี่" ต่อบุคคลอื่นๆด้วย ารทำธุรกิจย่อมต้องการได้รับผลประโยชน์หรือความนิยม แต่นักธุรกิจที่ดี มีคุณธรรม ควรใช้ความเป็นกลาง ให้ความยุติธรรมกับบุคคลอื่น รวมทั้งไม่บีบบังคับความเชื่อถือศรัทธาหรือศาสนาของบุคคลอื่นตามใจตัวเองเพียงคนเดียว” …*…
ที่มา:ศรพระราม (02/05/66)