วันที่ 23 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ และความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคปชป.ที่จัดการเลือกตั้งในครั้งนี้ ผมขอถือโอกาสนี้แจ้งต่อพี่น้องสื่อมวลชนว่าจากการติดตามสถานการณ์มาจนถึงวันนี้ผมขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ในพื้นที่ทั่วประเทศดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ และกรุงเทพ ฉะนั้นพรรคจึงมีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป้าหมายที่ได้วางไว้แต่เดิมมีความเป็นไปได้ชัดขึ้น ตัวเลจ 70-80 ที่นั่ง ที่ประมาณการเอาไว้ในช่วงก่อนการเลือกตั้งมาถึงนาทีนี้ทำให้เรามีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น

ซึ่งไม่ว่าจากการที่พรรค โดยท่านหัวหน้าพรรคท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ได้แถลงในยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ต่อมาเปิดตัวนโยบายของพรรคทั้ง 26 นโยบายรวมถึงนโยบายการสร้างสันติภาพ สู่สันติสุข ชายแดนใต้ มาถึงวันนี้ในมีการจัดทัพในการรณรงค์หาเสียงแบ่งเป็น 3 ท่านคือ ท่านหัวหน้าพรรค ท่านเลขาธิการพรรค และทัพของอดีตหัวหน้าพรรค ท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน และท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกสายทุกทัพได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งได้ตระเวนกันไปทั่วทุกภูมิภาค เพื่อพบปะกับพี่น้องขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้เลือกประชาธิปัตย์ทั้งพรรคทั้งคน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 26 เป็นหมายเลขเดียวที่ใช้ได้ทั่วประเทศ ส่วนเขตพื้นที่ต่างๆนั้นแต่ละเขตก็ได้เลขหมายต่างๆกัน แต่การรณรงค์ของพรรคย้ำให้เลือกทั้งพรรค เลือกทั้งคน ฉะนั้นมาถึงนาทีนี้มีผลการวิจัยของพรรคใกล้เคียงกับผลการวิจัยของโพลหลายสำนักว่าประชาธิปัตย์มีการตอบรับอย่างดี มีเสียงขานรับในทุกภูมิภาคที่ดีขึ้น  

ดังนั้นจึงขอถือโอกาสนี้ยืนยันตัวเลขว่าจากการทำผลสำรวจ และได้ทำการทั้งของสำนักโพลต่างๆสอดคล้องกับของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้ ที่เรามั่นใจว่าเราจะได้ตัวเลขไม่ต่ำกว่า 40  เราก็ยังยืนยันในตัวเลขนี้  ที่ภาคใต้ประชาธิปัตย์ยังมีความหวังว่าจะได้มากกว่า 40 ที่นั่ง 

ในส่วนของสงขลานาทีนี้เรามีความมั่นใจว่าเรายังสู้ทั้ง 9 เขต  และขณะนี้ถือว่าใกล้เคียงความจริงอย่างมาก เหลือเวลาอีก 3 อาทิตย์เราเชื่อว่า เขตที่ยังสูสีกันอยู่เราจะพยายามให้ชนะขาดให้ได้ ในขณะนี้เท่าที่ตัวเลขที่เราประเมินทั้งประเทศ ขั้นต่ำ 70 ที่นั่ง และก็ยังใกล้เคียงความจริงมากที่สุดในขณะนี้ แม้ว่าผลโพลอีสานบอกเราจะได้น้อย แต่จากการที่หลายสายไปเดินในภาคอีสาน ท่านบัญญัติก็ดี คุณหญิงกัลยาก็ดี ท่านรองชัยยศก็ดี ยืนยันกันว่าพื้นที่ภาคอีสานไม่ว่าจะเป็น สกลนคร  อำนาจเจริญ โคราช หรืออุบลราชธานีเสียงประชาธิปัตย์ได้รับการตอบรับอย่างดี  ซึ่งเรามีเป้าหมายอยู่ 3 เขต ในส่วนภาคเหนือถ้าเราดูโพลบางสำนัก ประชาธิปัตย์มี 4 ที่นั่ง เราประมาณการว่าน่าจะได้มากกว่านั้น บางจังหวัดเท่าที่สุ่มตัวอย่างมามีกระแสตอบรับดีมากทั้งสุโขทัย และเชียงใหม่บางเขต นอกจากจังหวัดตราด นครสวรรค์ จังหวัดสุโขทัยหรือพิจิตร สิ่งเหล่านี้ท่านรองนราพัฒน์ แก้วทองก็ดูแลอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ 

จากการที่เราทำนโยบายประกันรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง แม้แต่ยางพารา ซึ่งขณะนี้มีการปลูกทั่วประเทศ หรือปาล์ม นโยบายเหล่านี้ดูแลพี่น้องเกษตรกร 9 ล้านกว่าครอบครัว นี่คือสิ่งที่เรามีความมั่นใจว่าพี่น้องเกษตรกรได้รับผลประโยชน์จากนโยบายประกันรายได้ ให้เกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบนี้ประชาธิปัตย์เน้นเรื่องชาวนาเป็นกรณีพิเศษ อย่างที่บอกว่าชาวนารับไร่ละ 30,000 ต่อ 15 ไร่  ไร่ละ 2,000 บาท อันนี้ถือเป็นการดูแลพี่น้องเกษตรกรชาวนาแบบตรงเป้าหมาย และเราอาจจะพ่วงไปถึงในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยเงื่อนไข เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วห้ามเผาตอซังข้าว ซึ่งมันจะก่อให้เกิดมลภาวะ ตามมามากมาย และเพิ่มการผลิตคุณภาพของเกษตรกรของพี่น้องชาวนาด้วย นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ยืนยันในเรื่งนโยบายของประชาธิปัตย์ รวมไปถึงนโยบายที่จะมุ่งอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ในหมู่บ้าน ในขุมชนในการจัดตั้งธนาคารชุมชนละ 2 ล้าน นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ประกาศกับพี่น้องประชาชนเดินหน้าสิ่งเหล่านี้

รวมไปถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางภาคใต้ เกิดปรากฏที่พรรคส่งทีมเศรษฐกิจมาสัญจรที่หาดใหญ่ เพื่อพบปะกับพี่น้องในพื้นที่ภูมิภาค มาประกาศเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟจากปาดังเบซาร์สู่หาดใหญ่ เพื่อเชื่อมให้นักท่องเที่ยวจากมาเลย์ที่มาขบวนรถไฟเข้าถึงหาดใหญ่ได้ หรือทางมอเตอร์เวย์จากหาดใหญ่ไปด่านนอก หรือสะเดา ซึ่งท่านสามารถ ราชพลสิทธิ์ได้ชี้แจงไปแล้ว รวมไปถึงสิ่งที่ท่านพิสิฐ ลี้อาธรรม ได้มาบอก จะผลักดันให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งนี้ได้ตอกย้ำว่าประชาธิปัตย์จะพัฒนาสงขลา หาดใหญ่ พัฒนาภาคใต้ของประเทศไทยด้วยนโยบายอะไรบ้าง ซึ่งถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ 

ซึ่งจากงานวิจัยยังพบว่า ประชาชน กว่า 20% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศเกือบ 40 ล้านคน ยังให้ความเชื่อมั่นต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เคยสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง กลับตรงกันข้ามพรรคประชาธิปัตย์มักจะเป็นทางเลือกทางรอดทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดวิกฤต รวมทั้งความเชื่อถือในแนวอุดมการณ์และนโยบายที่พรรคได้ทำไว้ให้ประเทศในแต่ละยุคสมัยถึง 77 ปีที่ผ่านม่า ยังมีความต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และแนวนโยบายหลายด้านที่กำลังทำ และที่จะทำต่อไปในอนาคตคือ 

รวมถึงเรื่องการศึกษา และการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะการประกันรายได้ ที่เกษตรกรทั่วประเทศสามารถมีความมั่นคงในรายได้ รวมทั้งนโยบายการสร้างชาติ สร้างคน ในด้านต่างๆ ที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็ง อย่างมั่นคง ในการประกอบอาชีพ มากกว่านโยบายที่มุ่งไปที่การแจกจ่าย นายนิพนธ์ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า จากงานวิจัยของพรรค และการติดผลโพลของทุกสำนักที่ชี้ไปในทิศทางที่เป็นบวก ประกอบกับระยะเวลาอีก 20 กว่าวันที่เหลือของการรณรงค์หาเสียงในครั้งนี้ จะสามารถทำให้พรรคมีฐานคะแนนที่เติบโตขึ้นใกล้เคียงกับปี พ.ศ.2554 ที่เราเคยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 11 ล้านคะแนน ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 นี้ สมาชิกทุกคนของพรรคจะช่วยกันทุ่มเทในการรณรงค์หาเสียง เพื่อให้พี่น้องประชาชนช่วยสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไป