วันที่ 23 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตัวเลขจากโพล ของหน่วยงาน”สีเขียว” ที่อ้างว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ”ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ ส.ส.ในภาคใต้ถึง 20 ที่นั่ง โดย 20 ที่นั่งจะเป็น ส.ส.ใน จ.สงขลา ถึง 4 ที่นั่ง ซึ่งตามข้อเท็จจริง”ประการแรก” ผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น อดีต ส.ส.ที่มาจากการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” และ บ่อที่ได้ปลามากที่สุดคือบ่อของ” พลังประชารัฐ และบ่อของ”ประชาธิปัตย์” ที่เป็นพรรคการเมืองที่ส่ง”ลุงตู่” ไปเป็น “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งเป็นพรรคของ”ลุงป้อม” ผู้เป็น”พี่ใหญ่” ของ”ลุงตู่” ที่รักกันปานจะ”กลืนกิน” มาเป็นเวลาถึง 50 ปี ดังนั้น”ลุงตู่” และ”รวมไทยสร้างชาติ” จึงเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มี ส.ส.ของตนเอง แต่เป็นการ”ตก” ส.ส. มาจากพรรคการเมือง ที่เคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 

ประการที่ 2 ตัวของ”ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คะแนนนิยม ใน 4 ปีที่แล้วกับใน วันนี้ แตกต่างกันอย่าง”ลิบลับ” ชื่อของ”ลุงตู่” ขายยากขึ้นในภาคอื่นๆ แม้ว่าใน”ภาคใต้” คะแนนความชื่นชอบ”ลุงตู่” อาจจะสูงกว่าภาคอื่น แต่ก็ต่ำกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 อย่างชัดเจน  4 ปีก่อน “บ้านเมืองสงบจบที่ลุงตู่” ยังใช้ได้ แต่วันนี้คน”ส่วนใหญ่” ไม่ได้มองที่”สงบ” แต่”สงัด” เพียงอย่างเดียว แต่มองที่”ปากท้อง” มองที่”เศรษฐกิจ” มองที่ปัญหา”ยิ่งอยู่ยิ่งจน” และเห็นชัดถึง”กึ๋น” ของ”ลุงตู่” โดยไม่ต้อง”แก้ผ้า” ดังนั่น กระแสของ”ลุงตู่” ในภาคใต้จึง”ไม่ปัง” อย่างที่ “ลุงตู่” และ”กองเชียร์” เข้าใจ 

และ”ประการที่สาม” พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาแบบ”เฉพาะกิจ” ที่เป็น”อะไหล่” ทางการเมือง เพื่อเป็น”ฐาน” ในการส่ง”ลุงตู่” ให้เป็น”นายกรัฐมนตรี” สมัยที่ 3 ตามความ”ต้องการของ”ลุงตู่” ที่ยังไม่พอและยังต้องการที่จะไป ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงเต็มไปด้วย”นักการเมือง” ที่ถ้าเป็น”พระ” ก็ยังมี”พรรษาน้อย” มอง สถานการณ์ของ”การเมือง”แบบไม่”ทะลุ” เห็นภาพ”ลวงตา” ว่าเป็นของจริง 

ถ้าจะให้”วิเคราะห์” ที่นั่งของ สส. รวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะได้มาจากไหนบ้าง ก็ต้องเริ่มต้นที่ จ.สงขลา ซึ่งมี ส.ใส.ของพรรครวมไทยสร้าง ที่”ตกได้” จาก”บ่อ” ของ”ลุงป้อม” หรือ “พลังประชารัฐ” มากที่สุดถึง 4 คน โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มี ส.ส. เจ้าของพื้นที่ เนื่องจาก ส.ส.ของเขต 1 คือ “วันชัย ปริญญาศิริ” ลาออกจากการเป็น สส. ไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ได้เป็น”นายกเทศบาลนครสงขลา” ทำให้ เขตเลือกตั้งที่ 1 ไม่มี อดีต ส.ส. ที่เป็น เจ้าของพื้นที่ จึงการแข่งขันครั้งนี้ จึงเป็นการแข่งกันระหว่าง “สรรเพชญ บุญญามณี”แห่งค่าย”แม่ธรณีบีบมวยผม” พรรคประชาธิปัตย์ กับ “เจือ ราชสีห์” อดีต ส.ส.ของประชาธิปัตย์ 4 สมัย

ซึ่ง”ประชาธิปัตย์” มี”มติ” ส่ง “เจือ ราชสีห์” ลงในบัญชีรายชื่อ ทำให้”เจือ ราชสีห์” ไม่ต้องการ จึงลาออกจาก”ประชาธิปัตย์” มาเพื่อขอ”แจ้งเกิด” ส.ส.เขต 1 ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตนี้ เป็นการ”ดวลเดี่ยว” ระหว่าง” เสือหนุ่ม”สรรเพชญ บุญญามณี   กับ”เสือเฒ่า”  เจือ ราชสีห์   ซึ่งถ้าดู สถานการณ์ขณะนี้ “สรรเพชญ” ยังมี คะแนนนำ “เจือ ราชสีห์” ค่อนข้างมาก และ “เกจิทางการเมือง” ฟันธง” ว่า เขตนี้ สส.จะชื่อ”สรรเพชญ บุญญามณี” แน่นอน 

เขตเลือกตั้งที่ 2 ส.ส.เจ้าของที่นั่งจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562  คือ”ศราตรา ศรีปาน” จาก “พลังประชารัฐ” ที่ บัดนี้”ย้ายค่าย มาเป็น”ลูกพรรค”ของ “รวมไทยสร้างชาติ” และต้องชิงกัน”เข้าป้าย” กับ” นิพัฒน์ อุดมอักษร” จาก”ประชาธิปัตย์  ซึ่ง”คะแนน” ของทั้ง 2 คน 2 พรรค ยังเป็นไปอย่าง”สูสีคู่คี่” อาจจะต้องวัดกันที่”โค้งสุดท้าย”  แต่ “ศราตรา ศรีปาน” ในวันที่ไม่มี”ผู้จัดการ”อย่าง” พ.อ.พิเศษ สุชาติ จันทรโชติกุล” เป็นผู้ดูแลเหมือนการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มีโอกาสที่จะ”เพลี่ยงพล้ำ”เสียที่นั่ง ส.ส.ให้กับ “ประชาธิปัตย์” มีโอกาสเป็นไปได้สูง 

เขตเลือกตั้งที่ 3  ส.ส.เมื่อปี 2562 คือ “พยม พรหมเพชร” ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ “กูรู” ทางการเมือง “ฟันธง” ว่า โอกาสที่”อาจารย์ยม” หรือ”ส.ส.พันศพ” จะเดินกลับสู่”สภาหินอ่อน” มีโอกาสน้อยมาก เพราะ”โพล” หลายสำนัก ที่ทำออกมาพบว่า คะแนนนิยมของ”อาจารย์ยม” มาอันดับ 3 จากผู้สมัครที่เป็น “ตัวเก็ง” อย่าง “สมยศ พลายด้วย” หรือ”เถ้าแก่ถึก” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ และ”ไพร พัฒโน” ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย “ปาฎิหารย์” ของ”อาจาย์ยม” มีเพียงอย่างเดียวคือกระแสของลุงตู่ ถ้า กระแสลุงตู่ ไม่”แลนด์ไสลด์” เห็นที”อาจารย์ยม” ต้องกลับไปเป็น”พิธีกรงานศพอีกครั้ง และสุดท้ายเขตนี้เป็นการ” ดวลเดี่ยว” ระหว่าง” ไพร พัฒโน” กับ” สมยศ พลายด้วง” ชัดเจน 

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4  เจ้าของพื้นที่คือ  ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ที่”ทิ้งลุงป้อม” มาอยู่กับ”ลุงตู่” แต่การเลือกตั้งครั้งนี้”สุขภาพ” ของ”ผู้กองรุณ” ทรุดโทรม  ต้อง”เข้า-ออก” โรงซ่อมสุขภาพ มากกว่าออกไป”หาเสียง”กับชาวบ้าน  โอกาสการเป็น ส.ส.จึงอยู่ที่ “ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว” จาก”ประชาธิปัตย์” เจ้าของที่นั่งเดิมกับ ว่าที่” ร.ต.ไกรธนู แกล้วทะนง” จากพรรคภูมิไทย มากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ  ทั้งหมดคือ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่”ย้ายคอก” มาอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นความหวังของ”บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ว่าจะได้เก่ากลับมาทั้ง 4 เขต  และเพิ่มจากเขตอื่นๆอีก 1 ที่นั่ง เป็น 5 ที่นั่งของ จ.สงขลา แต่เมื่อ”วิเคราะห์เจาะลึก” แล้ว อย่างดีที่สุด”รวมไทยสร้างชาติ” จะมี ส.ส.ใน จ.สงขลา แค่ 1-2 ที่นั่ง ก็ถือว่า”สุดหรู” แล้ว 

แม้ว่าในเขตเลือกตั้งที่ 4 สงขลา จะเพิ่มผู้สมัครคนดังอย่าง “ชนพัฒฐ์ นาคสั้ว” จากพลังประชารัฐ ที่มีข่าวว่าเป็นผู้สมัครที่”สด ใหม่” และเป็น”ตัวเต็ง”มาเป็น”ตัวเลือก” สำหรับประชาชนในเขตนี้ พรรคพลังประชารัฐก็อย่างเพิ่ง”ย่ามใจ” ว่าจะ”ปักธง”ได้แน่นอน เพราะ”ชนนพัฒฐ์” เป็นนักการเมือง”หน้าใหม่” ที่ไม่เคยเล่นการเมืองไม่ว่าจะเป็น ระดับใด และ ชนนพัฒฐ์” ยังมี”คดีความ” ที่ถูก “พล.ต.ท.ไตรรงค์ หิมาลัย” จับกุมและตั้งข้อ”กล่าวหา” ในข้อหาเรื่อง” การพนันออนไลน์” ซึ่งขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด ซึ่งต้องถาม”ประชาชน” ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ว่า รับได้หรือไม่กับการที่”พลังประชารัฐ” เสนอให้”ชนนพัฒฐ์” มาเป็น “ผู้แทน” ของประชาชน  

ขณะที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ปัตตานี,ยะลา,และ”นราธิวาส” ที่ “ลุงตู่” ไป”ตก ส.ส.” มาจาก”บ่อ” ของ”พลังประชารัฐ” นั้น เขต 1 ยะลา” อาดินัน อาลีอิสเฮาะ” เป็นเจ้าของ”ที่นั่ง” ครั้งโอกาสที่จะเสียที่นั่งให้กับ”ประสิทธิ์ พงษ์สุวรรณศิริ” จากพรรคประชาธิปัตย์ หรือ”สุไลมาน บือแนปีแน” จากพรรคประชาชาติ มีอยู่สูงยิ่ง และอาจจะมีอยู่ที่นั่งเดียวที่”รวมไทยสร้างชาติ” อาจจะได้มาจาก จ.นราธิวาส คือ เขต 1”วัชระ ยาวอหะซัน” ซึ่งเป็น”บ้านใหญ่” ของ”ลุ่มน้ำบางนรา” แต่ก็ไม่มีอะไรที่”การันตี” ได้ เพราะ” นัดมุจมุดดิน อูมา” ขุนพลของ”ภูมิใจไทย” ที่ประกาศเป็น”บ้านใหญ่ระแงะ”กำลังไล่ตะลุย เพื่อ”ล้มบ้านใหญ่” ปักธงให้กับผู้สมัครของ”ภูมิใจไทย” อยู่เช่นกัน 

และอาจจะมีอีก 1 ที่นั่งจาก เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ปัตตานี ซึ่งเป็น”ฐานที่มั่น” ของ “อนุมัติ ซูสาลอ” ( มะ พระเอก) อดีต ส.ส.ของพรรคประชาชาติ ที่ครั้งนี้ ไม่ลงสมัคร แต่ส่งลูกชาย ลงสมัครแทน โดยใช้ ฐานคะแนนเสียง”ของ” พ่อ” ซึ่งโอกาสที่จะได้เป็น ส.ส.จึงยัง “ก้ำกึ่ง” เพราะ มีผู้สมัครที่”สมน้ำสมเนื้อ” และ”ดีกว่า” จากหลายพรรคการเมืองเป็น”คู่ชิง” 

ส่วนในภาคใต้ตอนล่าง อย่าง”ตรัง,พัทลุง” และ”สตูล” ไม่ว่าจะมองจาก”มุมไหน” หรือ”เหลี่ยมไหน” ก็จะเห็นเพียง 1 ที่นั่ง ที่ยังจะ”พอหวังได้” นั้นคือ เขต 2 จ.พัทลุง ที่”บ้านใหญ่  “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” นายก อบจ.พัทลุง  ส่ง “นิธิศักดิ์ ธรรมเพชร”ผู้เป็นลูกชาย” หัวแก้วหัวแหวน”  ลงสมัครในเขต 2 พัทลุง ที่ความเป็น”บ้านใหญ่” อาจะทำให้”ประชาธิปัตย์” และ”ภูมิใจไทย” ต้อง”หลบ” ให้   เพื่อเป็นการ”รักษาน้ำใจ” ใน”ฐานะ”ของคนการเมืองที่บางครั้งต้องเว้น”ช่องไฟ” เอาไว้บ้าง 

ดังนั้น”ที่มั่น” ที่”รวมไทยสร้างชาติ” จะมีโอกาสในการ”ปักธง” ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน คือ จ.นครศรีธรรมราช เพราะมี อดีต ส.ส.ที่ย้ายจากพรรค”ลุงป้อม” และที่ย้ายจาก”ประชาธิปัตย์”  มา”ซบอก”ของ”ลุงตู่” ซึ่ง”เกจิทางการเมือง” ของ”เมืองพระ” ที่มองการเมืองแบบ 180 องศา “ฟันธง” ว่า “รวมไทยสร้างชาติ” อาจะได้ ส.ส.จาก “นครศรีธรรมราช” เพียง 1 เขต เท่านั้น สำหรับ “สุราษฎร์ธานี” ที่มี ส.ส. 8 เขต และ”บิ๊กตู่” มี”บ้านใหญ่”อย่าง “พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว”  นายก อบจ.”เมืองหอยใหญ่”  และ”ชุมพล กาญจนะ” คนเก่าคนแก่ ของ”ประชาธิปัตย์” ที่”แปรเปลี่ยนไป” ทิ้ง”ประชาธิปัตย์” มา”หนับหนุน” เพื่อเพิ่มจำนวน สใส.ให้”ลุงตู่” ด้วยการส่ง”ลูกสาว” ที่เป็น อดีต สใส.ของ”ประชาธิปัตย์” ลงสมัคร โดย “เกจิ” ทาง”การเมือง” เชื่อว่า” ลูกสาว” ของ”พงษ์ศักดิ์” และ”ลูกสาว”ของ”ชุมพล” ได้เป็น ส.ส. แน่นอน   

แต่อย่ามั่นใจว่า จะได้ ส.ส.”สตรี” ทั้ง 2 เขต เพราะสำหรับ”สุราษฎร์ธานี” การทำศึกเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” มี”บัญญัติ บรรทัดฐาน” เป็น”จอมทัพ” ในการ”รักษาป้อมค่าย”ของ ประชาธิปัตย์  ซึ่ง”เกจิทางการเมือง” ทุกคน ยอมรับในความ”ละเอียด”ใน”กลศึก” ของ”โกซี้” เป็นอย่างดี ที่เผลอๆ “รวมไทยสร้างชาติ” อาจจะ”อกหัก” ไม่ได้ ส.ส.แม้แต่ที่นั่งเดียว   และแม้แต่ที่ จ.ชุมพร ซึ่ง”ลุงตู่” เดินทางมาเปิด”ปราศรัย” ครั้งแรก ก่อนการ”ยุบสภา” ก็เชื่อว่า ในจำนวน ส.ส. 3 ที่นั่ง”ของ จ.ชุมพร  รวมไทยสร้างชาติ” จะได้ไปเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น   ส่วน 2 ที่นั่งยังเป็นของ”ประชาธิปัตย์” เหมือนเดิม  

สำหรับ”โซนอันดามัน” ดู”ชื่อชั้น”ของผู้สมัคร”รวมไทยสร้างชาติ”แล้ว ตอบได้คำเดียวว่ายัง ไม่สามารถขึ้นชั้นเป็น ส.ส.ได้                                                               

สรุปแล้ว ในการเลือกตั้งครั้งนี้ "รวมไทยสร้างชาติ"จะได้ ส.ส.ในภาคใต้ทั้งหมดอยู่ที่ หรือสูงสุด   8  ที่นั่งหรือสูงสุดไม่เกิน 10 ที่นั่ง    ส่วนในภาคอื่นๆ  ก็คงจะไม่ไป”ก้าวล่วง” แต่จากการ”ประเมิน” ผู้สมัครจากภาคอื่นๆของ”รวมไทยสร้างชาติ”แล้ว ก็เห็นว่ามีเพียงไม่กี่พื้นที่ ซึ่งสามารถ”ปักธง” ได้ ส.ส.เขตอย่าง”ยกจังหวัด” หรือ”เป็นกอบเป็นกำ” มีแต่”เสียบ”ได้บ้างเท่านั้น 

ขณะที่”สมรภูมิ” ในภาคใต้ ที่ “รวมไทยสร้างชาติ” ต้องการ”กวาด” ส.ส.ให้ได้เป็นจำนวนมากนั้น ต้องยอมรับความจริงว่า”คู่แข่ง” ของ”รวมไทยสร้างชาติ”คือ”ประชาธิปัตย์” เพราะภาคใต้เป็นพื้นที่ของ”ประชาธิปัตย์” ถ้าเสียงของ”ลุงตู่” ในภาคใต้มี”ประชาชน” ให้การ”ตอบรับ”มากเท่าไหร่ “ประชาธิปัตย์”ก็กระทบกับการได้ ส.ส.ของประชาธิปัตย์เท่านั้น ดังนั้น”ศัตรูหมายเลข 1 “ ของ”ประชาธิปัตย์” ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงอยู่ที่”รวมไทยสร้างชาติ” อยู่ที่ต้อง”ล้มลุงตู่”ให้ได้ เพราะถ้า”ลุงตู่” พา”รวมไทยสร้างชาติ” แรงขึ้นเท่าไหร่ ตัวเลข 40-50 ที่นั่งของ”ประชาธิปัตย์”จะต้องลดจำนวนลง 

แต่ที่เห็นเป็น”จุดแข็ง”ของ” รวมไทยสร้างชาติ” ที่เป็น”จุดแข็ง”เฉพาะตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ จะมี ประชาชนที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ หรือ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อ “ชื่นชอบ” พล,อ.ประยุทธิ์ โดยเฉพาะ ประชาน ใน ภาคใต้ ซึ่งจะจะส่งผลให้ คะแนนพรรค หรือ”บัญชีรายชื่อ” ของพรรครวมไทยสร้างชาติได้มา”อย่างเป็นกอบเป็นกำ” ทำให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้ามา “ชดเชย”ส.ส.เขต ที่จะทำให้ “รวมไทยสร้างชาติ” ได้ ส.ส.ทั้ง 2 ระบบเกิน 25 ที่นั่ง ลบคำสบประมาทของพรรคการเมืองคู่แข่งไปได้

ที่ต้อง”จับตา” ใน”กลศึก” ของ”รวมไทยสร้างชาติ” เพราะวันนี้ ในพื้นที่ซึ่งมี”ค่ายทหาร” ตั้งอยู่ มีการ”ขานรับ” และ”ขับเคลื่อน” กันอย่าง”เงียบเชียบ” เพื่อการ”หนุนผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติและ ลุงตู่” ให้เป็น”นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป รวมทั้งการเดินสายของ”หัวคะแนน” รวบรวม”รายชื่อ” ของ “ประชาชน” ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงกันอย่าง”คึกคัก” ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่ “ธรรมดา” กับการ เลือกตั้ง ในภาคใต้