นับถอยหลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา แบ่งเขตเลือกตั้งได้ทั้งหมด 16 เขต ใน 32 อำเภอ ผู้สมัคร ส.ส.ทุกพรรคต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก ทั้งแชมป์เก่าและผู้ท้าชิง ต่างไม่มีใครยอมลดราวาศอกกันเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราชบ้านเอง ซึ่งเป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่สุดในจังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ 1,825.2 ตารางกิโลเมตร ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจหรือเมืองหน้าด่านของโคราช
วันที่ 20 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งสำหรับเขตเลือกตั้งที่ 14 อำเภอปากช่อง(กลางดง, ขนงพระ, จันทึก, ปากช่อง, พญาเย็น, หนองน้ำแดง, หนองสาหร่าย, หมูสี) มีผู้สมัครทั้งสิ้น 10 คน จาก 10 พรรคการเมือง อ.ปากช่อง ยกเว้น ต.วังไทร ต.คลองม่วง ต.วังกระทะ และ ต.โป่งตาลอง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 159,332 คน สนามเลือกตั้งเขตนี้มี นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ จากพรรคเพื่อไทย เป็นแชมป์เก่ามาหลายสมัย แต่ครั้งนี้ต้องเจอคู่แข่งทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัตน์ วาริชอลังการ และพรรคภูมิใจไทย นายมานิธ จันทรวราภร เป็นผู้ท้าชิงที่น่ากลัวอีกคนที่มาพร้อมกับนโยบายพรรคที่ว่า พูดแล้วทำ พร้อมปลดหนี้นอกระบบ
นายมานิธ จันทรวราภร ผู้สมัคร ส.ส.อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (ส.อบจ.) เขต อ.ปากช่องมาหลายสมัย เคยเป็นอดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ลงสมัครท้าชิง ส.ส.เขต 14 นครราชสีมา เบอร์ 3 พร้อมชูนโยบายพูดแล้วทำ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด ผู้สมัครพรรคภูมิใจไยจะเรียกคะแนนเสียงได้หรือไม่ต้องรอดู
ซึ่งศึกเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการวัดบารมีว่าใครจะได้เป็นผู้แทนของประชาชน ส่วนหนึ่งคงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การหาเสียง การโน้มน้าวใจด้วยนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง การสร้างกระแสของแต่ละพรรค และของผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะดับฝันแลนด์สไลด์ หรือเลือกคนใหม่พรรคใหม่ในกระแสอยากเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะเป็นผู้ตัดสินในวันที่ 14 พ.ค. 2566