จับตาสหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ พรรคภูมิใจไทย ยอมทิ้งฐานแชมป์เก่า ย้ายข้ามเขต จากเขต 1 สมัคร ส.ส. เขต 2 ชน ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 แชมป์เก่า เพื่อไทยหวังล้มแลนด์สไลด์ ส่งเมีย ครูพูนสุข โพธิ์สุ เป็นผู้สมัคร เขต 1 พรรคภูมิใจไทยแทน  ชน ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย ด้าน กกต. สรุปผู้สมัคร ทั้ง 4 เขต รวม 52 ราย  ส่วนสหายแสง ยอมเสียสิทธิ์ ไม่เลือกตัวเอง ใช้สิทธิ์เลือกตั้งเขตเดิม

วันที่ 17 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าผลการรับสมัคร เลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในพื้นที่ 4 เขต ระหว่างวันที่ 3 – 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้สรุปจำนวนผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 เขต เลือกตั้ง รวม 52 ราย แยกเป็น พื้นที่ เขต 1 จำนวน 13 ราย พื้นที่ เขต 2 จำนวน 10 ราย พื้นที่เขต 3 จำนวน 14 ราย และพื้นที่ เขต 4 จำนวน 15 ราย โดยเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ในพื้นที่ 12 อำเภอ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ช่วงนับถอยหลังการเลือกตั้ง พื้นที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ หลายคนต้องโฟกัสไปที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.ศรีสงคราม อ.บ้านแพง อ.นาหว้า และ อ.นาทม เดิมเป็นฐานที่มั่น ของ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย แชมป์เก่า แต่ยอมย้ายฐานที่มั่น จากบ้าน เกิด เขต 1 อ.ศรีสงคราม เพื่อนำทัพภูมิใจไทย ชนกับ ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย แชมป์เก่า และยังเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 สหายแสง ส่งภรรยา คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือครูตุ่น อดีต รองนายก อบจ.นครพนม ผู้สมัคร สส..เขต 1 นครพนม เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ลงแทน  ชนกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย

 ส่วนการเลือกตั้ง ครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า จ.นครพนม ส่วนใหญ่เป็นการวัดบารมี ระหว่าง พรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเดิม พรรคเพื่อไทย มีเก้าอี้ 3 ที่ นั่ง คือเขตเลือกตั้งที่ 2-3-4 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 เสียเก้าอี้ ให้พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย ชนะ นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส. นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย มาครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จึงส่ง ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย   ลงแทน เพื่อทวงแชมป์คืน

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ที่มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ยังคงพบว่า สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สามารถใช้สิทธิ์ในเขตเลือกตั้งที่ 1 โดยยังไม่มีการย้ายที่อยู่เพื่อข้ามเขตมาใช้สิทธิ์ ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ทั้งที่ตัว สหายแสง ข้ามเขตมาสมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม มี อ.เมืองนครพนม เป็นหลัก รวมถึง อ.ท่าอุเทน และ อ.โพนสวรรค์  ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้จากเอกสารของ กกต.นครพนมพบว่า สหายแสง ไม่สามารถใช้สิทธิ์ เลือกตนเองได้ ต้อง ไปใช้สิทธิ์ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และต้องเสียสิทธิ์ไม่สามารถลงคะแนนให้ตัวเองได้ ส่วนบุคคลที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ตามระเบียบ กกต. จะต้อง มีชื่อในทะเบียนบ้าน ตามพื้นที่เขตเลือกตั้ง ครบ 90 วัน  

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้ง ครั้งนี้ ถือว่า เป็นการวัดบารมีของ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย ถือเป็นแม่ทัพคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย  ที่ยอมฝ่ากระแสฐานที่มั่นพรรคเพื่อไทย เพื่อหวังล้มแชมป์เก่า ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วยเขต 3 มี อ.เมืองนครพนมบางส่วน อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร ส่ง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นครพนม เบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย แชมป์ 13 สมัย รวมถึงเขต 4 อ.นาแก อ.วังยาง อ.เมืองนครพนมบางส่วน ส่ง นายชูกัน กุลวงษา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ทนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการวัดบารมี ระหว่างพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคฝ่ายเผด็จการ เนื่องจากการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย รวมถึง สหายแสง เคยประกาศจะไม่ร่วมเผด็จการ แต่สุดท้าย ต้องไปร่วมรัฐบาล กับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ จะต้องฝ่าทั้งประแสข้ามเขต รวมถึงกระแสฝ่ายประชาธิปไตย  

ที่สำคัญยังมีกระแสดรามา กรณีสหายแสง จะยกครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ เป็นต้นแบบ วางแนวทางการพัฒนานครพนม เหมือน จ.บุรีรัมย์ เนื่องจาก มีการส่งภรรยาลงสมัคร ส.ส. เขต 1 แทนตัวเองที่ข้ามเขต มาชนแชมป์เก่าหวังล้มแลนด์สไลด์ เพื่อสร้างครอบครัวสหายแสง ชนกับครอบครัวเพื่อไทย หวังที่มาของตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงยังมี ฐานการเมือง จากลูกสาว คือ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม เป็นฐานเสียง  เพื่อหวังกวาดที่นั่ง ส.ส. ทั้ง 4 เขต และจะเป็นการชี้อนาคตทางการเมือง ทั้ง 2 พรรคใหญ่ เชื่อว่าหากใครชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ จะครองแชมป์ไปอีกนยาวนานหลายสมัย