ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายกิตติธัช ไชยอรรถ ผู้สมัครสส.ตราด พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 2 กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 4 ปี ได้เข้ามาทำหน้าที่ของที่ปรึกษารัฐมนตรีมาช่วยเหลือและสนับสนุนชาวตราดในหลายโครงการ ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และโครงการสร้างอาชีพดีพร้อมให้กับชาวตราดจำนวนมาก ซึ่งการลงเลือกตั้งครั้งนี้ได้นำนโยบายของพรรคทั้งในเรื่องบัตรสวัสดิการ 700 บาท การแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ หรือโครงการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่พรรคได้ใช้ในการหาเสียง ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังได้แรงสนับสนุนจากผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่นจังหวัดตราดเกือบ 20 แห่งที่จะช่วยในการเลือกตั้งครั้งนี้
“การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งนโยบายพรรค ผู้สนับสนุนในองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้งอบต.และเทศบาลเกือบ 20 แห่ง รวมทั้งผู้ร่วมทำงานทั้งสมาชิกพรรค และผู้ช่วยหาเสียงที่ออกไปทำงานในพื้นที่ซึ่งตลอด 4 ปี ผมไม่ทิ้งพื้นที่ไปไหน แต่ได้ทำงานในหน้าที่มาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับแรงสนับสนุน และสามารถนำเก้าอี้สส.ตราดมาให้พรรคพลังประชารัฐได้”นายกิตติธัชกล่าว
ขณะนายลือเกษ ยิสารคุณ ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด ผู้สมัครส.ส.ตราด พรรคเสรีรวมไทย ที่ได้หมายเลข 3 กล่าว่า การลงเลือกตั้งครั้งนี้ของตนเอง เพื่อต้องการเข้าไปเป็นทางเลือกของพี่น้องชาวตราดในการทำงานทางการเมือง ซึ่งนโยบายของพรรคเสรีรวมไทย มี 14 ข้อ แต่ที่มีความชัดเจนและเป็นประเด็นปัญหาหลักของประเทศก็คือ ปัญหาการทุจริตในภาครัฐ ที่นับวันจะเพิ่มขึ้น จนสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย หรือราคาน้ำมันที่มีราคาสูง ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค อีกเรื่องที่เป็นปัญหาของชาวตราดโดยตรงก็คือ พรบ.ประมงที่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงในภาคตะวันออกที่จะต้องเร่งรีบไปแก้ปัญหาโดยเร็ว
“ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่พรรคเสรีรวมไทยต้องเข้าไปแก้ปัญหาโดยเร็วก็คือ การลดรายจ่ายของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องเข้าแก้ไข เพราะในยุคนี้ พรรคการเมืองแต่ละพรรคเสนอนโยบายแบบประชานิยม ซึ่งมีอยู่ทุกพรรค แต่พรรคเสรีรวมไทยจะเข้าไปปรับลดค่าใช้จ่ายให้ลดลงและปราบปรามการทุจริตซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในพาครัฐขอลหน่วยงานต่างๆได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของกลุ่มทุนผูกขาดมากกว่า”นายลือเกษ กล่าว
นายประทีป เลขาพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.ตราด พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะใช้ยุทธวิธีการปราศรัยหาเสียงกับพี่น้องตราดอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ยุบสภาได้เดินทางไปหาเสียงและเป็นเวทีไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่นับจากที่ได้หมายเลขแล้วจะออกเดินทางไปปราศรัยหาเสียงในสถานที่ต่างๆรวมทั้งหมด 120 เวที เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นที่รู้จักของชาวตราดต่อไป ที่ผ่านมาได้ออกไปทำงานในนามของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาระยะหนึ่ง และได้รับแรงสนับสนุนระดับหนึ่ง
“วันนี้กระแสลุงตู่ดีขึ้นโดยลำดับ เพราะประชาชนชาวตราดชอบในความที่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ รักสถาบัน และเป็นคนดี รวมทั้งมีผลงานที่ชาวตราดรู้จัก ทั้งเรื่องโควิด 19 ที่ทำให้หมดไป หรือ นโยบายอื่นๆที่เอื้อประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนชาวตราดให้มากที่สุด”นายประทีป กล่าว