วันที่ 30 มีนาคม 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และ 3 ของ จ.สงขลา กล่าวว่า จากการที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต  ได้ทำการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ตั้งปี 2565 เป็นต้นมา ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เวลาทีเหลือก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครทุกเขตและผู้ให้การสนับสนุนทั้งในพื้นที่และของพรรค จะช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่  ในฐานะที่ทำงานการเมืองมานาน มีประสบการณ์ ทำให้เชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตเลือกตั้งทั้ง 3 ได้ ผู้สมัครของพรรคจะได้เลือกกลับเข้ามาอย่างแน่นอน 

ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชนที่ชัดเจน ทั้งในเขตเมืองใหญ่ เมืองขนาดกลางและเมืองเล็ก เพราะวันนี้ประเทศไทยภายใต้ นโยบายการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยไม่มีเขตชนบทอีกต่อไป นโยบาย” “สร้างคน  สร้างเงิน สร้างชาติ “ ที่เป็น นโยบายหลักของพรรค เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และหลายอย่างทำสำเร็จมาแล้ว เช่นการ ประกันรายได้ให้เกษตร การแจกโฉนดที่ดิน ซึ่งตนเป็น รมช. มหาดไทยมา 3 ปี สามารถแจกโฉนดที่ดินถึง 400,000 ฉบับ ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีก จะแจกโฉนดให้ได้ 1 ล้านฉบับในเวลา 4 ปี 

โดยเฉพาะ นโยบายในเขตเมืองใหญ่ๆ อย่าง เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครสงขลา ซึ่งมีเรื่องของ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และมีชุมชนจำนวนมาก ที่มีเรื่องของ อาชีพ ของ ปากท้อง ประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายที่แยกย่อยลงไป เพื่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ ซึ่งมีปัญหาที่ต่างกัน ตั้งแต่เรื่อง คมนาคม เช่นเขต 2 หาดใหญ่ ต้องมี”โมโนเรล” ที่ ประชาธิปัตย์ทำไว้แล้ว และจะทำให้สำเร็จ การพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวใน อ.หาดใหญ่ ก็เป็นอีกเรื่องที่ประชาธิปัตย์อยู่ระหว่างการดำเนินการ 

สำหรับในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สงขลา คือพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ทั้งหมด และ ต.คลองอู่ตะเภา มีผู้สมัครที่มีชื่อชั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เช่นนายนิพัฒน์ อุดมอักษร จากพรรคประชาธิปัตย์ นายศราตรา ศรีปาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเจษฎาพงษ์ ชูแก้ว จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็น 3  พรรคการเมืองที่จะเข้าป้ายเพื่อเป็น สส.ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แต่ก็ประมาทไม่ได้กับนายจูรี นุ่มแก้ว จากพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เป็นดาวติ๊กต๊อกชื่อดังในโซเชียล ที่อยู่ในกระแสของความสนใจของประชาชน  และ ร.ต.ท.ชราธิป สันติภราภพ จากพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ที่มีเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่