สสส.โวผลงาน 1 ทศวรรษสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพ ตั้งเป้าต่อเน้นประชากรกลุ่มเฉพาะ ยกระดับคุณภาพชีวิต 8 กลุ่ม รวมพลังคนทำงานด้านสังคมกว่า 2 พันคน ปลุกคนไทยใช้หัวใจฟังเสียงที่ไม่ได้ยิน เมื่อวันที่ 12 มิ..ย.ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานประชุมวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ “ Voice of the voiceless: the vulnerable populations” เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำของประชากรทุกกลุ่ม โดยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บูรณาการทำงานร่วมกัน และต่อยอดกระบวนการทำงานเพื่อเสริมพลังการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะให้เกิดความเท่าเทียมทางสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 2,300 คน จากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชากรกลุ่มเฉพาะต่างๆ นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพคนที่ 2 ประธานในพิธี กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการทำงานสร้างเสริมสุขภาวะภายใต้วิสัยทัศน์ “ทุกคนบนแผ่นดินไทยมีขีดความสามารถ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เอื้อต่อสุขภาวะ” ดังนั้นทุกคนบนแผนดินไทย จึงรวมถึง “ประชากรกลุ่มเฉพาะ” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบาง และมีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต งสถานการณ์ที่คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญร่วมกันคือ 1. ไร้ตัวตน ถูกมองข้าม 2. ถูกผลักภาระ 3. มีความเสี่ยงสูง 4.ถูกกีดกันออกจากนโยบาย และ 5. มีจิตสำนึกจำยอม หรือยอมจำนน การทำงานเพื่อลดช่องว่างของปัญหาเหล่านี้ สสส. ต้องหากลไกที่แตกต่างที่สอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิต ถือเป็นความท้าทายของการทำงานให้บรรลุความเป็นธรรมทางสุขภาพคือ ลดความเหลื่อมล้ำผ่านปัจจัยทางสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับวิธีคิดและเชิงโครงสร้างโดยอาศัยยุทธศาสตร์การสร้างแนวร่วมสนับสนุนจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาคประชาสัมคม ภาครัฐ และภาคเอกชน นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ใช้ยุทธศาสตร์ไตรพลังในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพคือ พัฒนาองค์ความรู้ ขับเคลื่อนนโยบาย และสร้างเครือข่ายการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในนโยบายการทำงานที่ สสส. ให้ความสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ สร้างความเท่าเทียม ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก ซึ่งประเทศไทยและนานาประเทศให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ที่มีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพและสังคมให้ปรากฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติ สสส. ได้สร้างพื้นที่ต้นแบบการทำงานลดความเหลื่อมล้ำของประชากรกลุ่มเปราะบาง 4 ด้าน คือ 1.พัฒนาสิทธิและการพิสูจน์สิทธิของประชากรเพื่อการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ หรือสวัสดิการสังคมตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ 2.พัฒนากลไกการสร้างเสริมสุขภาพ สิทธิประโยชน์ ระบบบริการที่เหมาะสมกับบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละกลุ่มประชากร 3.พัฒนากลไกเสริมเพื่อการเข้าถึงความเป็นธรรมทางสุขภาพ 4.สื่อสารเพื่อการสร้างความเข้าใจการสร้างเสริมสุขภาวะของประชากรกลุ่มเฉพาะ ขณะที่นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผอ. สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. เข้าใจบริบทสถานการณ์ทางด้านสุขภาพของคนในสังคมที่มีความแตกต่างกันของ “ประชากรกลุ่มเฉพาะ” ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สสส. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพใน 8 กลุ่ม ได้แก่ คนพิการ 2.04 ล้านคน คนไร้บ้าน 1,518 คน ผู้สูงอายุ 13.3 ล้านคน ผู้หญิง 37.7 ล้านคน ผู้ต้องขังหญิง 1.5 แสนคน แรงงานนอกระบบ 21.19 ล้านคน ผู้มีปัญหาสถานะบุคคล/ประชากรข้ามชาติ 3.1 ล้านคน และมุสลิม 3.2 ล้านคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมทางสุขภาพ ทั้งการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบกลไกเพื่อขับเคลื่อนนโยบายทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ การพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในประชากรกลุ่มเฉพาะ ซึ่งมีผลงานเชิงประจักษ์ในหลายประเด็นที่สามารถนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนทำงาน จนถึงภาคีเครือข่าย องค์กรที่เกี่ยวข้องได้