กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จัดงาน "รวมพลคนรักกีฬา มินิมาราธอน 2562" ท่ามกลางสายฝน แต่นักวิ่งสู้ไม่ถอย
นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมวิ่งเป็นกำลังใจ ในงานรวมพลคนรักกีฬา มินิมาราธอน 2562 “RUN FOR THE KING” ณ เขื่อนบางวาด จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย มีนักวิ่งเข้าร่วมมากกว่า 1,200 คนร่วมกับ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการปล่อยตัวนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติในรายการมลากูน่า ภูเก็ต มาราธอน 2019 โดยเช้านี้เป็นการปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขันมาราธอน และฮาล์ฟ มาราธอน
นาวาตรี วรวิทย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานฯซึ่งจัดมาอย่างยาวนานถึงปีที่ 14 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของคณะผู้จัดงานเป็นอย่างดี เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวในเมืองหลักและเมืองรองซึ่งตรงตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองหลัก ก็จะกระจายทั้งคนและรายได้ไปสู่เมืองรอง ในท้องถิ่นและชุมชนด้วย งานนี้พบว่านักวิ่งชาวไทยมีพัฒนาการด้านการวิ่งที่ดีจากเดิมวิ่งระยะสั้น 5 ก.ม. ก็พัฒนาเป็น 10 ก.ม. หรือ 15 ก.ม.ตามลำดับ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกันทุกคน
นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมวิ่งเป็นกำลังใจ ในงานรวมพลคนรักกีฬา มินิมาราธอน 2562 “RUN FOR THE KING” ณ เขื่อนบางวาด จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย มีนักวิ่งเข้าร่วมมากกว่า 1,200 คนร่วมกับ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการปล่อยตัวนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติในรายการมลากูน่า ภูเก็ต มาราธอน 2019 โดยเช้านี้เป็นการปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขันมาราธอน และฮาล์ฟ มาราธอน
นาวาตรี วรวิทย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานฯซึ่งจัดมาอย่างยาวนานถึงปีที่ 14 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของคณะผู้จัดงานเป็นอย่างดี เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวในเมืองหลักและเมืองรองซึ่งตรงตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองหลัก ก็จะกระจายทั้งคนและรายได้ไปสู่เมืองรอง ในท้องถิ่นและชุมชนด้วย งานนี้พบว่านักวิ่งชาวไทยมีพัฒนาการด้านการวิ่งที่ดีจากเดิมวิ่งระยะสั้น 5 ก.ม. ก็พัฒนาเป็น 10 ก.ม. หรือ 15 ก.ม.ตามลำดับ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกันทุกคน