หากได้โดยสารรถไฟสายใต้ ตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ เรื่อยไปถึงสถานีสุไหงโก-ลก หลายท่านคงคุ้นหู คุ้นตากับเจ้าหน้าที่ในชุดพรางทะเลทราย ที่คอยอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ ให้แก่ประชาชน ที่โดยสารบนรถไฟ หรือที่รู้จักกันในนาม อ.ส. รถไฟ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 เห็นชอบให้มีการเพิ่มอัตรากำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ จากสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงสถานีสุไหง โก-ลก จ.นราธิวาส โดยการจัดตั้งกองร้อยบังคับการและบริการส่วนหน้า จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้แบ่งหมวดปฏิบัติการออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวดปฏิบัติการที่ 1 ตั้งอยู่สถานีชุมทางหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หมวดปฏิบัติการที่ 2 ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และหมวดปฏิบัติการที่ 3 ตั้งอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปัจจุบันมีอัตรากำลังสมาชิก อส. 252 นาย โดยจัดสมาชิก อส. ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนขบวนรถไฟ ระหว่างสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นประจำทุกวัน วันละ 20 ขบวน ขบวนละ 8-10 นาย มีภารกิจหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟ บูรณาการร่วมกับเจ้าพนักงานปกครอง ตำรวจ ดูแลรักษาเส้นทางคมนาคม ขนส่ง ตรวจตราการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การลักลอบขนส่งยาเสพติดทางรถไฟ การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี ตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ อส. รถไฟ พร้อมเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ นายหมวดเอกเศรษฐการ เพชรวารี ผู้บังคับการกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยกำกับดูแล อส. รถไฟ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ อส.รถไฟ ช่วยให้ไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบบนรถไฟเนื่องจาก อส. รถไฟ เป็นบุคคลในพื้นที่ ด้วยความเป็นจิตอาสาจึงคอยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในการยกของ ขนของขึ้น-ลงรถไฟ เวลาปฏิบัติหน้าที่ก็คอยพูดคุย สอบถามชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า จึงเกิดความสนิทสนม เมื่อมีข่าวการจะก่อเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ชาวบ้านก็จะบอกกล่าวให้ อส. รถไฟได้ทราบ เหมือนญาติพี่น้องเตือน ๆ กัน ทำให้เราสามารถเตรียมพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือหากเกิดเหตุการณ์ก็ทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือไม่ให้ประชาชนได้รับอันตราย หรือความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ผลงานของ อส. รถไฟ ในการตรวจค้นสัมภาระของผู้โดยสารบนรถไฟ อาทิ การตรวจพบยาเสพติดในกล่องโทรทัศน์ จำนวน 200,000 เม็ด บนขบวนรถไฟกรุงเทพ – ยะลา เป็นต้น “การปฏิบัติหน้าที่ในชายแดนใต้ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง แต่เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ อีกหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2555 โจรใต้ยิงถล่มขบวนรถไฟสายสุราษฎร์ธานี - สุไหงโก-ลก ที่ อ.เจาะไอร้อง” นายหมวดเอกเศรษฐการ กล่าว นายหมู่โท อาซูวัน เจ๊ะลาเต๊ะ อส. รถไฟ ผู้ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถไฟดังกล่าว ได้เล่าว่า ขณะที่รถไฟสายสุราษฎร์ธานี - สุไหงโก-ลก กำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีบูกิต จ.นราธิวาส ไปได้ประมาณ 500 เมตร ผ่านป่าละเมาะ มีคนร้ายประมาณ 10 คน ซุ่มยิงขบวนรถไฟ อส. ได้ยิงต่อสู้กันราว 5 นาที ส่งผลให้มี อส. รถไฟ เสียชีวิต 1 นาย และนายหมู่โท อาซูวัน เจ๊ะลาเต๊ะ ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ต้นขา จากการปฏิบัติหน้าที่ อส. รถไฟ ตั้งแต่ ปี 2550 ซึ่งเป็น อส. รถไฟรุ่นแรก จนถึงปัจจุบัน เคยเจอเหตุการณ์การซุ่มยิงมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยย่อท้อต่อหน้าที่ เพราะได้รับกำลังใจจากประชาชนในพื้นที่คอยให้กำลังใจเสมอมา ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อชีวิตมากเพียงใดก็ตาม แต่การดูแลประชาชนให้ปลอดภัยจากอันตรายเป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่ง หากเจ้าหน้าที่หวาดกลัวหรือเกรงกลัวอันตราย ประชาชนจะหาที่พึ่งจากที่ใด แม้การปฏิบัติหน้าที่ของ อส.รถไฟ จะมีความเสี่ยงสูงเพียงใด แต่หน้าที่ในการดูแลรักษาประชาชนให้มีความปลอดภัย พ้นจากอันตรายและรักษาความสงบในท้องถิ่นของตน มีความสำคัญยิ่งกว่า ดังคำขวัญของกองอาสารักษาดินแดน ที่ว่า “ปวงข้า อส.ขอตั้งสัจจา จะปกป้องพาราจนสิ้นใจ