การซื้อบ้านมือสองอาจดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีราคาย่อมเยาและเงื่อนไขที่ดึงดูดใจ แต่หากไม่ตรวจสอบให้ดี ผู้บริโภคอาจตกเป็นเหยื่อกลโกง เสี่ยงเสียเงินจำนวนมากโดยไม่ได้บ้านสมดังใจหวัง และอาจถึงขั้นถูกธนาคารฟ้องขับไล่ออกจากบ้านที่คิดว่าเป็นของตนเองก็เป็นได้

กลโกงบ้านมือสองติดจำนอง

กรณีล่าสุดพบว่ามีผู้บริโภคจำนวนมากถูกหลอกให้ซื้อบ้านที่ยังติดจำนอง โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์บางแห่งนำบ้านที่ถูกยึดและนำมาประมูลจากกรมบังคับคดีออกขายต่อ โดยใช้กลยุทธ์โฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมเงื่อนไขชวนเชื่อ เช่น ดาวน์ต่ำ ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่ตรวจเครดิตบูโร รวมถึงเสนอทางเลือกอย่าง “เช่าออม” หรือผ่อนรายวัน ทำให้มีผู้หลงเชื่อกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 300 ล้านบาท

ปัญหาคือ หลังการประมูล บริษัทไม่ได้ชำระหนี้จำนองที่ยังคงค้างกับธนาคาร ทำให้ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดยังเป็นของธนาคาร แม้ผู้บริโภคจะผ่อนบ้านกับบริษัทครบถ้วน แต่ก็ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ และสุดท้ายบ้านจะถูกยึดขายทอดตลาดอีกครั้ง ผู้บริโภคกลายเป็นผู้เสียหาย ถูกฟ้องขับไล่ และสูญเสียทั้งเงินและที่อยู่อาศัย

ตัวอย่างบริษัทและพฤติกรรมซ้ำรอย

สภาผู้บริโภคเปิดเผยว่า มีบริษัทหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะเดียวกัน เช่น บริษัท แห่งหนึ่ง ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ที่เคยถูกเตือนภัยตั้งแต่ปี 2564 โดยทั้งหมดใช้วิธีการนำบ้านประมูลที่ยังติดภาระหนี้มาขายต่อ โดยไม่ปิดจำนองให้เสร็จสิ้นก่อน

วิธีตรวจสอบก่อนซื้อบ้านมือสอง

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ผู้บริโภคควรตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ให้ละเอียด โดยเฉพาะ โฉนดที่ดิน

ด้านหน้าโฉนด : ตรวจสอบชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่าตรงกับผู้ขายหรือไม่ หากเป็นนิติบุคคล ต้องดูหนังสือมอบอำนาจประกอบ

ด้านหลังโฉนด : ตรวจสอบว่ามีการจำนองหรือขายฝากอยู่หรือไม่ หากพบชื่อธนาคารหรือผู้รับจำนอง แสดงว่ายังมีภาระหนี้

วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือไปตรวจสอบที่ สำนักงานที่ดิน ซึ่งสามารถยื่นคำขอคัดสำเนารายการจดทะเบียนที่ดินได้ ข้อมูลจากที่ดินจะชี้ชัดว่ามีภาระผูกพันใด ๆ อยู่หรือไม่ เช่น จำนอง ขายฝาก หรืออายัด

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์กรมที่ดิน และแอปพลิเคชัน LandsMaps ที่ช่วยค้นหาข้อมูลแปลงที่ดิน แต่หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเรื่องหนี้และจำนอง ควรไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินโดยตรง

เอกสารที่ต้องเตรียม

ผู้บริโภคที่ต้องการตรวจสอบควรนำ สำเนาบัตรประชาชน ,สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาโฉนดที่ดินจากผู้ขาย และหากผู้ขายไม่ไปด้วยตนเอง ควรมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาเอกสารของผู้ขาย

ข้อควรระวังสำคัญ

ต้องขอดูโฉนดตัวจริงทุกครั้ง ไม่ควรเชื่อเพียงสำเนา อย่าเชื่อเพียงคำยืนยันของผู้ขาย ต้องตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง หากพบความผิดปกติ เช่น ผู้ขายบ่ายเบี่ยงไม่ให้เอกสาร ถือเป็นสัญญาณอันตราย

ทางออกสำหรับผู้บริโภคที่เสียหาย

ผู้ที่เผชิญปัญหาหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนไปยัง สภาผู้บริโภค สายด่วน 1502 หรือยื่นเรื่องออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.tcc.or.th เพื่อขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านกฎหมาย

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก่อนซื้อบ้านมือสองทุกครั้ง ควรตรวจสอบโฉนด ตรวจสอบหนี้จำนอง และขอเอกสารอย่างเป็นทางการจากสำนักงานที่ดิน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และรักษาสิทธิ์ของตนเองให้ปลอดภัย