”ฉันทวิชญ์“ มอบ 27 รางวัล เชิดชูธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล ประจำปี 2568 พาณิชย์หนุนยกระดับขีดความสามารถภาคธุรกิจ ช่วยสร้างแต้มต่อการแข่งขันในตลาดโลก
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเฟ้นหาธุรกิจน้ำดีที่มีธรรมาภิบาล เพื่อมอบโล่รางวัลและหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้ในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2568 ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568 ณ ห้องพีโอนี่ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2568 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าส่งเสริมพัฒนาภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยหล่อหลอมให้ธุรกิจมีมาตรฐาน ด้านธรรมาภิบาล ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างจุดแข็งและมีข้อแตกต่างที่ได้เปรียบในการแข่งขัน
“การเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยก้าวสู่การยอมรับในระดับสากล กับกฎเกณฑ์กติกาใหม่ๆในโลก เราต้องยกระดับมาตรฐานในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านแรงงาน ด้านการเปิดเผยแหล่งที่มาของวัตถุดิบ และกระบวนการผลิตอย่างละเอียด โดยเฉพาะหากเรามุ่งเจาะตลาดใหม่ที่มีมาตรฐานสูง เช่น สหภาพยุโรป ภาคธุรกิจไทยก็จะสามารถแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่งบนเวทีโลก การนำหลักธรรมาภิบาลมาปรับใช้จะช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน สร้างภูมิคุ้มกันต่อความท้าทาย และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนที่ภาคธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้” นายฉันทวิชญ์ กล่าว
ซึ่งกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน โดยมีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจแล้วทั้งสิ้นจำนวน 270 ราย และในปี 2568 นี้ มีธุรกิจสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศรวม 117 ราย ซึ่งมาจากภาคการผลิต การบริการ การเกษตร และการค้าส่ง-ค้าปลีก และสามารถผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับมาตรฐานธรรมาภิบาล ซึ่งมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมธุรกิจให้มีธรรมาภิบาล เป็นกรรมการทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การตรวจประเมิน 6 หลัก ประกอบด้วย 1) หลักนิติธรรม 2) หลักคุณธรรม 3) หลักความโปร่งใส 4) หลักการมีส่วนร่วม 5) หลักความรับผิดชอบ และ 6) หลักความคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการกลั่นกรองอีกหลายลำดับชั้น ทั้งด้านงานตรวจสอบเอกสาร การสัมภาษณ์ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท การลงพื้นที่ตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการ การตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลฎีกา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม จนได้ธุรกิจน้ำดีที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 112 ราย แบ่งเป็นธุรกิจรายใหม่ 27 ราย และธุรกิจที่ครบระยะเวลาต่ออายุหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจอีก 85 ราย
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การประเมินและได้รับโล่พร้อมหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันนี้ หนังสือรับรองฯ จะมีอายุนาน 3 ปี สามารถนำเครื่องหมายรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจไปใช้ร่วมกับเครื่องหมายการค้าของธุรกิจได้ทันที นอกจากนี้ ในหนังสือรับรองนิติบุคคลของธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ใส่หมายเหตุข้อความรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า และนักลงทุน โดยกรมฯ จะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รายชื่อทุกธุรกิจที่ได้รับรางวัลให้เป็นที่รับรู้แก่สาธารณชนผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางที่กรมฯ มี เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์ เป็นต้นแบบที่ดีงาม สร้างพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป