เมื่อพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่เคารพเข้าสู่วัยสูงอายุ การดูแลเอาใจใส่คือสิ่งที่ลูกหลานอยากมอบให้ดีที่สุด หนึ่งในนั้นคือการสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยและสะดวกสบาย เพราะบ้านคือพื้นที่ที่ท่านใช้เวลาอยู่มากที่สุด การจัดบ้านผู้สูงอายุจึงควรใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ห้องนอน ห้องครัว ไปจนถึงแบบห้องน้ำผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการลื่นล้ม บทความนี้จะพาไปดูวิธีจัดบ้านผู้สูงอายุให้เหมาะสมทั้งด้านความสะดวกและความปลอดภัย เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ และลดความกังวลของลูกหลาน

การจัดห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

ห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุได้บ่อยที่สุด ดังนั้นความปลอดภัยจึงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

  • พื้น ควรเลือกใช้กระเบื้องกันลื่นที่มีผิวสัมผัสหยาบ โดยมีค่ากันลื่น R10 ขึ้นไป และควรทำให้พื้นห้องน้ำเรียบเสมอกันทั้งหมด อาจใช้สีของกระเบื้อง หรือตะแกรงกั้นเพื่อแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งแทนการทำพื้นต่างระดับ
  • ราวจับ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ต้องมี ควรติดตั้งในจุดต่าง ๆ เช่น ข้างโถสุขภัณฑ์ และบริเวณที่อาบน้ำเพื่อช่วยในการพยุงตัว
  • สุขภัณฑ์ โถสุขภัณฑ์ควรมีความสูงประมาณ 43-45 เซนติเมตรเพื่อให้ลุกนั่งได้สะดวก ส่วนอ่างล้างหน้าควรมีพื้นที่ด้านล่างโปร่งเพื่อให้รถเข็นวีลแชร์สามารถสอดเข้าไปได้ และควรเลือกใช้ก๊อกน้ำแบบก้านโยกที่ไม่ต้องใช้แรงบิดมาก

ห้องนอน

ห้องนอนควรเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่ปลอดภัยและเข้าถึงง่าย

  • ตำแหน่ง ควรจัดห้องนอนผู้สูงอายุไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันได และควรอยู่ใกล้ห้องน้ำมากที่สุด
  • ประตูห้อง ควรเป็นบานเลื่อนเปิด-ปิดง่าย ความกว้างประมาณ 180 ซม.
  • เตียงนอน ควรมีความสูงพอดีกับระดับเข่า ประมาณ 40-50 เซนติเมตร เพื่อให้ลุกนั่งได้ง่าย และควรมีพื้นที่ว่างรอบเตียงอย่างน้อย 90 เซนติเมตรเพื่อให้เดินได้สะดวก หรือให้รถเข็นผ่านได้
  • พื้นห้อง แนะนำให้ใช้วัสดุที่ช่วยลดแรงกระแทกได้ เช่น พื้นไม้คอร์ก เพื่อลดความรุนแรงหากเกิดการหกล้ม
  • ตู้เสื้อผ้า ควรเป็นบานเลื่อนที่เปิดง่าย ไม่ฝืด สูงประมาณ 150-170 ซม. และมีพื้นที่ว่างหน้าสำหรับลองเสื้อผ้าได้อย่างสะดวก
  • ปุ่มฉุกเฉิน บริเวณหัวเตียงควรมีโทรศัพท์ หรือปุ่มกดฉุกเฉินติดตั้งไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด

ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมและพักผ่อน จึงควรโปร่ง โล่ง และปลอดภัย

  • การจัดวาง ควรจัดเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบ ไม่วางของเกะกะขวางทางเดิน
  • เฟอร์นิเจอร์ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง ขอบมน ไม่เหลี่ยม เพื่อลดการบาดเจ็บจากการเดินชน
  • พื้น ไม่ควรปูพรมหนา ๆ ที่อาจทำให้เดินสะดุดได้ง่าย พื้นห้องควรเรียบเสมอกันทั้งหมด
  • หน้าต่าง ควรมีขนาดใหญ่และอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป โดยทั่วไปควรสูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

ห้องครัว

หากผู้สูงอายุยังชอบทำอาหาร การจัดห้องครัวให้ปลอดภัยและใช้งานง่ายก็เป็นเรื่องสำคัญ

  • เคาน์เตอร์ ควรมีขอบมนเพื่อความปลอดภัย และมีความสูงพอเหมาะที่ผู้สูงอายุจะใช้งานได้สะดวก
  • เตา แนะนำให้เปลี่ยนจากเตาแก๊สเป็นเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องไฟไหม้และแก๊สรั่ว
  • ชั้นวางของ ควรอยู่ในระดับที่ผู้สูงอายุเอื้อมถึงได้ง่าย ไม่เกิน 170 ซม.
  • การจัดวาง ควรเก็บเครื่องครัวให้เป็นระเบียบ และหลีกเลี่ยงการเก็บของมีคมในตำแหน่งที่เอื้อมยาก

ห้องพระ

สำหรับผู้สูงอายุที่ชอบสวดมนต์ นั่งสมาธิ ควรจัดห้องพระให้อยู่ในมุมที่สงบและเข้าถึงง่าย

  • ตำแหน่ง ควรจัดไว้ที่ชั้นล่างเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
  • โต๊ะหมู่บูชา ควรอยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสม ไม่ต้องก้ม หรือเงยมากเกินไป
  • อากาศ ควรเป็นห้องที่มีการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดอันตรายจากควันธูปเทียน
  • ที่นั่งสำหรับไหว้พระ ใช้เบาะรองนั่งที่มีนุ่ม นั่งสบาย แนะนำให้ติดตั้งราวจับไว้เพื่อช่วยประคองการทรงตัว

ข้อควรคำนึงในการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

นอกจากการจัดห้องแต่ละห้องแล้ว ยังมีสิ่งอื่น ๆ ที่ควรใส่ใจเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

  • แสงสว่าง ทุกพื้นที่ในบ้านต้องมีแสงสว่างเพียงพอ โดยเฉพาะทางเดิน บันได และห้องน้ำ เพื่อให้ผู้สูงอายุมองเห็นได้ชัดเจน
  • พื้นต่างระดับ ควรเอาธรณีประตูออกและปรับพื้นบ้านให้เรียบเสมอกันทั้งหมดเพื่อป้องกันการสะดุดล้ม หากจำเป็นต้องมี ให้ทำเป็นทางลาดแทน
  • ประตู ควรมีความกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตรเพื่อให้รถเข็นผ่านได้สะดวก และควรใช้มือจับแบบก้านโยกที่เปิดปิดง่าย หรือติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อนที่ไม่มีรางล่าง ป้องกันการสะดุดล้ม
  • สวิตช์ไฟ ควรอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก และอาจติดตั้งไฟเซนเซอร์เปิดปิดอัตโนมัติตามทางเดินเพื่อความปลอดภัยในเวลากลางคืน

สรุปบทความ

การจัดบ้านผู้สูงอายุไม่ใช่แค่การตกแต่งให้สวยงาม แต่คือการออกแบบพื้นที่ที่คำนึงถึงความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และคุณภาพชีวิตในระยะยาว การปรับตั้งแต่ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลาง ช่วยลดความเสี่ยงจากการหกล้มและอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศที่ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ มีความเป็นอิสระ และไม่ต้องกังวลเมื่อต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน การดูแลเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้อาจดูธรรมดา แต่กลับส่งผลใหญ่ต่อความสุขและความอุ่นใจของทั้งผู้สูงอายุและคนในครอบครัว