แม้ดีลจัดตั้งรัฐบาลเพื่อสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี จะยังไม่มีการเปิดเผยถึงโควต้ารัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ แต่คนในวงการการเมืองเชื่อว่านี่คือประเด็นหลักที่ต้องตกผลึกกันแล้วเป็นอันดับต้นๆ

สูตรรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของอนุทินมีการจับตาว่า กระทรวงสำคัญๆ อย่าง กระทรวงกลาโหม และ กระทรวงมหาดไทย อาจตกเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ตลาดการเมืองขานชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกันแล้วว่าคงไม่พ้นไปจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “ลุงป้อม” จากพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนั่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปด้วย ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะสานฝันให้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ “ผู้กองมนัส” จากพรรคกล้าธรรม

แน่นอนว่าสูตรดังกล่าวมีความเป็นไปได้ แต่ก็เผชิญกับข้อจำกัดหากพิจารณาถึงภูมิหลังทางการเมืองของแคนดิเดตทั้งคู่

พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและอดีตรองนายกรัฐมนตรี การที่ พล.อ. ประวิตรจะกลับมามีอำนาจในตำแหน่งสำคัญนั้นมีความเป็นไปได้สูง พล.อ. ประวิตรมีอิทธิพลอย่างมากในกองทัพและกลุ่มการเมืองอนุรักษนิยม ในฐานะ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” การได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาลในด้านความมั่นคงและสานต่อแนวทางของกองทัพได้

แต่ก็จะขัดกับหลักการของพรรคประชาชนที่ต้องการสกัดท่ออำนาจของ “รัฐประหาร” ที่เป็นเหตุผลให้ต้องจำใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคใดพรรคหนึ่ง ก็เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยไหลไปรวมกันและมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่หากได้พล.อ.ประวิตรมาแทนจะไม่ย้อนแย้งกับหลักการหรือไม่ ในขณะที่ พล.อ.ประวิตรเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เป้าหมายสูงสุดก่อนแลนดิ้งการเมืองควรเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่ารองนายกรัฐมนตรี

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส เป็นนักการเมืองที่มากประสบการณ์และมีเครือข่ายทางการเมืองที่กว้างขวาง ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถือเป็นตำแหน่งสำคัญที่กำกับดูแลหน่วยงานบริหารราชการส่วนภูมิภาคและการปกครองท้องถิ่น ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นเป้าหมายของ ร.อ.ธรรมนัส หากจำกันได้ ร.อ.ธรรมนัสเคยแตกหักกับ พล.อ.ประยุทธ์มาแล้วในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ

การที่ ร.อ.ธรรมนัสจะได้รับตำแหน่งนี้อาจเป็นผลมาจากการต่อรองทางการเมืองและการช่วยให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น ในขณะที่หลายฝ่ายยังไม่เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะยอมปล่อยกระทรวงมหาดไทยให้กับพรรคการเมืองอื่น ด้วยต้องเข้าไปจัดการคดีเขากระโดงที่เป็นปมเหตุสำคัญให้ต้องแยกย้ายจากพรรคเพื่อไทย

อย่างไรก็ตาม ทั้ง พล.อ.ประวิตรกับ ร.อ.ธรรมนัส ต่างเคยผ่านบททดสอบความสัมพันธ์ระหว่างกันมาตลอดระยะเวลาการเป็นผู้เล่นหลักในเกมการเมืองของทั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลแพทองธาร ถ้าดีลหนุน “อนุทิน”เป็นนายกฯสำเร็จต้องจับตาว่าพวกเขาจะกลับมาเปล่งออร่าบารมีอีกครั้งในรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ ภายใต้สัจธรรมการเมืองที่ว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”  และในวันนี้ที่พวกเขาทั้งคู่ยังยืนปักหลักอยู่ได้ ก็ถือว่าเป็น “แมวเก้าชีวิต”

#รัฐบาลใหม่  #อนุทิน  #ประวิตร  #ธรรมนัส  #การเมืองไทย  #จัดตั้งรัฐบาล #โควต้ารัฐมนตรี