นับตั้งแต่วิกฤตโควิดที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศต้องเผชิญกับความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ทำเอาหลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์เงินเดือนที่ต้องผจญกับสภาพคล่อง การมีเงินก้อนพร้อมใช้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงเลือกที่จะ “กู้เงิน” เป็นทางออกเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน การลงทุน หรือการซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้านหรือรถยนต์ โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการกู้ผ่านทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน ซึ่งหลายคนมองว่าการที่จะกู้เงินให้ผ่านนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก หากเข้าใจประเภทของสินเชื่อ ก็จะช่วยให้เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ตรงจุด เพิ่มโอกาสการอนุมัติได้มากขึ้น การขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินก็จะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

สินเชื่อทางการเงินและวิธีเลือกสินเชื่อให้เหมาะกับตนเอง

ต้องยอมรับว่าสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินมีให้เลือกใช้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อระยะสั้น สินเชื่อระยะยาวหรือ เงินกู้ ที่แยกตามวัตถุประสงค์ แต่โดยหลักแล้วมีเพียง 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. สินเชื่อบ้าน (Home Loan)

สินเชื่อบ้านเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโดมิเนียม หรือใช้เพื่อก่อสร้างและต่อเติมที่อยู่อาศัย ผู้กู้จะได้รับวงเงินตามราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย โดยชำระคืนเป็นงวดรายเดือน ประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระอาจยาวนานสูงสุดถึง 30 ปี ขึ้นอยู่กับนโยบายของสถาบันการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ยกตัวอย่าง สินเชื่อบ้าน จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งวันนี้มาพร้อมกับวงเงินกู้สูงสุด 100%* ของมูลค่าหลักประกันตามราคาประเมิน หรือราคาซื้อขายในสัญญาซื้อขายของกรมที่ดิน อัตราดอกเบี้ยมีทั้งแบบ

คงที่ และแบบลอยตัว

ดอกเบี้ย สินเชื่อ บ้านมีทั้งแบบคงที่และแบบลอยตัว ซึ่งจะมีผลต่อยอดชำระรายเดือนและต้นทุนรวมตลอดอายุสัญญา ผู้กู้ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมการโอน และค่าประกันอัคคีภัย เพื่อประเมินภาระรวมอย่างรอบคอบ

สินเชื่อบ้านเหมาะกับใคร ?

เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้มั่นคงและต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว เช่น ข้าราชการ พนักงานบริษัท หรือผู้ประกอบการที่มีรายรับสม่ำเสมอ

2. สินเชื่อรถ (Car Loan)

สินเชื่อรถเป็นเงินกู้เพื่อการซื้อรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง หรือรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยหรือเพิ่มสภาพคล่อง ผู้กู้จะได้รับวงเงินตามราคาประเมินของรถและชำระคืนเป็นงวดรายเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระทั่วไปอยู่ระหว่าง 12–84 เดือน ยกตัวอย่าง สินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash จากธนาคารไทยพาณิชย์ คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.25% ต่อเดือน และให้ผ่อนชำระสบายๆ นานสูงสุด 84 เดือน , สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว เป็นสินเชื่อรถรูปแบบใหม่จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งให้วงเงินสูงสุด 90% ของราคาประเมิน ผ่อนยาวสูงสุดถึง 84 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ระหว่าง 4.00% – 8.60% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเท่ากับ 7.51%- 14.84% ตลอดอายุสัญญา

การอนุมัติสินเชื่อรถจะพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระ รายได้ต่อเดือนและประวัติการชำระหนี้ ผู้กู้ควรเลือกแผนผ่อนที่สอดคล้องกับสภาพคล่องเพื่อหลีกเลี่ยงภาระหนี้เกินตัว

สินเชื่อรถเหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อการเดินทาง หรือเพื่อประกอบอาชีพ เช่น พนักงานบริษัทที่ต้องเดินทางไปพบลูกค้า หรือผู้ประกอบการขนส่ง

3. สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan)

สินเชื่อ ส่วนบุคคลเป็นเงินกู้ที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ใช้จ่ายได้ตามความต้องการ เช่น ค่ารักษาพยาบาล การซ่อมบ้าน ค่าเล่าเรียน หรือการรวมหนี้ดอกเบี้ยสูง วงเงินกู้และดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับรายได้และประวัติทางการเงิน ดอกเบี้ยเป็นแบบคงที่ ทำให้ยอดผ่อนรายเดือนเท่ากันตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระอยู่ระหว่าง 12–60 เดือน ผู้กู้ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรวมและค่าธรรมเนียมก่อนตัดสินใจ เช่น บัตรกดเงินสด CardX SPEEDY CASH จากธนาคารไทยพาณิชย์สมัครง่าย ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกันได้เงินไว นอกจากกดเงินสดได้แล้วยังผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 36 เดือน ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี

สินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเร่งด่วน มีรายได้มั่นคงและสามารถผ่อนชำระได้สม่ำเสมอ

4. สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (Business Loan)

สินเชื่อเพื่อธุรกิจถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการขยายกิจการ ลงทุนในสินทรัพย์ หรือเพิ่มสภาพคล่อง วงเงินกู้จะพิจารณาจากแผนธุรกิจ ความสามารถในการสร้างรายได้และหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจมีทั้งแบบระยะสั้นเพื่อหมุนเวียนและแบบระยะยาวเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขแตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของธุรกิจ ผู้ประกอบการควรเตรียมเอกสาร เช่น งบการเงินย้อนหลัง แผนธุรกิจ และเอกสารการจดทะเบียน เพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติ ยกตัวอย่าง สินเชื่อมณีทันใจจากธนาคารไทยพาณิชย์ มาพร้อมกับวงเงินสูงสุด 500,000 บาท ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ย MRR+10% - MRR+16% สมัครง่ายเพราะไม่ต้องใช้เอกสาร เป็นสินเชื่อเงินก้อนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่กำลังสร้างธุรกิจและต้องการเงินลงทุน ทั้งยังอนุมัติไวภายใน 5 นาที สามารถตรวจสอบผลการกู้เงินได้ผ่านแอป SCB EASY

สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายหรือหมุนเวียน เช่น ร้านอาหาร SMEs โรงงาน เป็นต้น

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนยื่นขอสินเชื่อ

เมื่อรู้จักกับ 4 ประเภทสินเชื่อหลักไปแล้ว ลำดับต่อไปจะกล่าวถึงสิ่งที่ควรรู้เมื่อจำเป็นที่จะต้องยื่นเรื่องในการขอสินเชื่อ เพื่อให้การขอกู้เงินเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งมีด้วยกันดังนี้

1. เลือกสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์

เนื่องจากสินเชื่อมีหลายประเภท ผู้กู้จะต้องเลือกสินเชื่อให้เหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้ เพราะหากเลือกสินเชื่อไม่ตรงกับความต้องการหรือการนำเงินไปใช้ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไข อาจมีปัญหาในเรื่องของการผ่อนชำระได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อแต่ละประเภทแตกต่างกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสินเชื่อที่ตนเองต้องการกับหลาย ๆ สถาบันทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่า สิ่งที่เลือกไปนั้นตอบโจทย์และตรงกับความต้องการมากที่สุด

2. เตรียมเอกสารให้ครบ

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร (Statement) ย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือ ใบทะเบียนการค้า (สำหรับเจ้าของธุรกิจ)
  • หลักฐานการเสียภาษี (เช่น ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91) (สำหรับเจ้าของธุรกิจ)
  • เอกสารเกี่ยวกับหลักทรัพย์ หากจำเป็นต้องใช้สำหรับค้ำประกัน (สำหรับเจ้าของธุรกิจ)
  • เอกสารเกี่ยวกับการสมรส/หย่า (ถ้ามี)

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นเอกสารหลักที่สำคัญในการยื่นเรื่องเพื่อขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงิน ทั้งนี้อาจมีข้อเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันทางการเงิน ซึ่งผู้กู้จะต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจัดหามาให้ครบตามที่สถาบันทางการเงินต้องการ เพราะถ้าหากขาดเอกสารใบใดใบหนึ่งอาจส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อได้

3. สำรวจหนี้ของตนเอง

หากต้องการที่จะขอสินเชื่อให้ผ่านแบบฉลุยด้วยการยื่นเอกสารเพียงครั้งเดียว สิ่งที่คำนึงถึงเป็นอันดับสองรองมาจากการจัดเตรียมเอกสาร คือ หนี้ ในขณะที่กำลังขอสินเชื่อครั้งใหม่อยู่ ซึ่งผู้กู้จะต้องมีหนี้ในวันที่ยื่นกู้ไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ หากเป็นไปได้ไม่ควรเป็นหนี้ใด ๆ ในวันที่ยื่นขอสินเชื่อ เพราะจะได้รับการอนุมัติได้ง่ายและเร็วกว่าคนที่เป็นหนี้แล้วไปขอยื่นกู้

4. เพิ่มรายได้หรือหาผู้กู้ร่วม

หากรายได้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการขอสินเชื่อ ควรหารายได้เพิ่มที่สามารถแสดงเอกสารทางการเงินให้กับสถาบันทางการเงินได้หรือหาผู้กู้ร่วมก็จะช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เช่น การ กู้เงิน เพื่อซื้อบ้าน ที่อาจมีทั้งชื่อคุณและคู่สมรสในการยื่นเรื่อง เป็นต้น

หลังจากที่ เงินกู้ ผ่าน อย่าลืมที่จะนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยเร็ว เพราะดอกเบี้ยไม่เคยรอใครและที่สำคัญควรหาเงินมาปิดหนี้ให้เร็วที่สุด เพียงเท่านี้ชีวิตในการเป็นหนี้ของคุณก็จะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน

จะเห็นว่าการ กู้เงิน ให้ผ่านไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเตรียมตัวอย่างรอบคอบ รู้จักวางแผนการเงินและเข้าใจรายละเอียดของสัญญาอย่างถี่ถ้วน หากต้องการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สินเชื่อ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans

ที่มาของข้อมูล