ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เชื่อได้ว่าทุกคนคงตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพไม่มากก็น้อย เพราะไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดใหญ่ การเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องคอยติดตามผลในระยะยาว อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยที่บานปลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ หรือแม้แต่ภาวะฉุกเฉินที่ไม่มีใครคาดคิด สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงกระทบต่อร่างกายและจิตใจ แต่ยังสั่นคลอนความมั่นคงทางด้านการเงินของครอบครัวด้วย การวางแผนรับมือ ‘ค่ารักษาพยาบาล’ จึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป หากแต่เป็นรากฐานของการวางแผนชีวิตที่ดีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี การมี ประกันสุขภาพ จึงเปรียบเหมือนร่มที่พกติดตัวไว้ แม้ว่าจะไม่รู้สึกถึงความสำคัญ แต่เมื่อวันที่ต้องใช้จริงจะช่วยบังแดด บังฝนและลดความเสียหายได้อย่างชัดเจน

ประกันสุขภาพเหมาะกับใคร?

แม้ชื่อประกันจะสื่อชัดว่าเกี่ยวกับสุขภาพ แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ ปกป้องคุณภาพชีวิตและกระแสเงินสดของครอบครัว ประกันสุขภาพ จึงเหมาะกับทุกคนในทุกช่วงอายุ

  • วัยเด็ก เป็นวัยที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายและบ่อยมากกว่าในวัยอื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าเรียนในระดับเด็กเล็กที่มักจะมีเด็กรวมตัวกันอยู่มาก การติดเชื้อและแพร่เชื้อจึงเป็นไปได้ง่าย เริ่มต้นด้วยความคุ้มครองสำหรับเด็กก็จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้
  • วัยเริ่มทำงาน รายได้และเงินสำรองฉุกเฉินน้อย เมื่อเจ็บป่วยกะทันหันหรือผ่าตัดเล็ก ๆ ค่าใช้จ่ายสามารถกระทบเป้าหมายการเงินอื่นได้ง่าย การเริ่มต้นด้วยความคุ้มครองพื้นฐานไม่เพียงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ยังช่วยให้เดินหน้าบนเส้นทางอาชีพได้อย่างมั่นใจ
  • ฟรีแลนซ์/เจ้าของกิจการ รายได้ไม่แน่นอนและขึ้นกับความสามารถในการทำงาน หากต้องนอนโรงพยาบาล รายได้อาจหยุดทันที การมีความคุ้มครองที่ดีและผลประโยชน์ชดเชยรายวัน สามารถช่วยบรรเทาความเสี่ยงของธุรกิจและครอบครัว
  • คนทำงานบริษัทที่มีสวัสดิการ สวัสดิการองค์กรเป็นพื้นฐานที่ดี แต่หลายครั้งมีเพดานจำกัด การมีความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่ออัปเกรดห้องพัก เพิ่มวงเงินผ่าตัด หรือปิดความเสี่ยงส่วนต่าง ช่วยให้การรักษาเป็นไปตามมาตรฐานที่ต้องการ
  • ครอบครัวที่มีบุตร/ผู้สูงอายุในบ้าน ค่าใช้จ่ายจากการเจ็บป่วยของสมาชิกหนึ่งคนอาจกระทบทั้งงบครอบครัว แผนคุ้มครองที่ออกแบบเป็นครอบครัว รวมวงเงินหรือให้สิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพ/วัคซีน ช่วยบริหารความเสี่ยงได้
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติครอบครัวเสี่ยง การตรวจพบเร็วและติดตามอาการสม่ำเสมอสำคัญมาก แผนที่ครอบคลุมการติดตามโรคเรื้อรัง ก็จะช่วยคุมค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้

เหตุผลที่ควรทำประกันสุขภาพ

เหตุผลต่อไปนี้สะท้อนให้เห็นว่าทำไม ประกันชีวิตสุขภาพ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยุคใหม่และไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

1. ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ด้วยต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้ค่ารักษาพยาบาลมีมูลค่าสูงกว่าที่หลายคนคาด การมีวงเงินจากประกันรองรับช่วยป้องกันการดึงเงินก้อนที่เตรียมไว้เพื่อเป้าหมายสำคัญอื่นได้

2. ป้องกันการสะดุดของกระแสเงินสดและแผนชีวิต

เมื่อต้องลาหยุดยาว รายได้อาจหยุดแต่ค่าใช้จ่ายไม่หยุด แผนประกันที่มีผลประโยชน์ชดเชยรายได้ หรือครอบคลุมการกายภาพบำบัดหลังผ่าตัด ช่วยให้กลับสู่ภาวะปกติได้ไวขึ้นโดยไม่กระทบสภาพคล่องในครัวเรือน

3. โอกาสเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ต้น

หลายกรณีที่ค่าใช้จ่ายมักเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยชะลอการพบแพทย์ การมี ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ช่วยลดอุปสรรคด้านจิตใจ ทำให้เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้เร็วขึ้น ซึ่งมักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในภาพรวม

4. เสริมความคุ้มครอง

สวัสดิการขององค์กรมีประโยชน์ แต่เพดานและเงื่อนไขอาจไม่เพียงพอในบางสถานการณ์ การเสริมความคุ้มครองส่วนตัวจะช่วยปิดช่องโหว่และได้รับการรักษาตามมาตรฐานที่ต้องการได้

5. เพิ่มความอุ่นใจให้ทั้งผู้ดูแลและผู้ถูกดูแล

การตัดสินใจรักษายามฉุกเฉินไม่ใช่เรื่องง่าย หากรู้ว่ามีแผนความคุ้มครองรองรับ ก็จะช่วยให้ครอบครัวโฟกัสกับการตัดสินใจทางการแพทย์ได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารหรือค่าใช้จ่ายส่วนต่างมากเกินไป

6. ใช้สิทธิ์ลดหย่อนทางภาษี

เบี้ยประกันบางประเภทสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเงินโดยรวมได้

ประกันสุขภาพ มีอะไรบ้าง

ประกันสุขภาพมีหลายแผนความคุ้มครอง ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองและความต้องการของแต่ละคน โดยมีแผนคุ้มครอง ให้พิจารณาพร้อมคุณสมบัติหลักเพื่อให้คุณได้เลือกอย่างคุ้มค่าและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

  1. ประกันสุขภาพเหมาจ่าย

    แผน ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ช่วยลดความกังวลเรื่องยิบย่อยในค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนด้านงบประมาณตลอดปี เช่น แผน ประกัน OPD คุ้มครบ จบหายห่วง ของ SCB ที่ให้ความคุ้มครอง OPD แบบเหมาจ่ายทั้งปี ไม่มีลิมิตต่อครั้ง มี IPD เหมาจ่ายไม่จุกจิก ค่าห้องสูงและที่สำคัญยังให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงโดยที่ไม่ต้องซื้อแผนความคุ้มครองเพิ่ม พร้อมรับเงินชดเชยเมื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาล

  2. ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง

    เป็นประกันสำหรับคนที่คิดว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง ไม่ว่าปัญหาการเจ็บป่วยจะมาจากพันธุกรรมหรือความเสี่ยงในการดำเนินชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วย โรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคเส้นเลือดสมองหรือโรคไต ที่ล้วนแล้วแต่เป็นโรคที่เสี่ยงจะเสียชีวิตได้ง่ายและใช้เวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง

  3. ประกันสุขภาพกลุ่ม

    เป็นประกันสำหรับองค์กรที่นิยมทำให้กับพนักงานภายในองค์กร เพื่อมอบให้เป็นสวัสดิการ ทั้งนี้สิทธิต่าง ๆ ที่ได้รับจะเท่าเทียมกันทุกคน เงื่อนไขบางประเภทอาจแตกต่างจากประกันสุขภาพรายบุคคล เช่น อาจคุ้มครองเฉพาะการเข้ารับการรักษาแบบ IPD และอุบัติเหตุ เป็นต้น

คุ้มครองอะไรบ้าง

สาระสำคัญของแผนคุ้มครองสุขภาพมักประกอบด้วยหมวดต่าง ๆ ต่อไปนี้

  1. ผู้ป่วยใน (IPD)
    • ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลต่อวัน
    • ค่ารักษาพยาบาลระหว่างนอนโรงพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่าหมอผ่าตัด/วิสัญญีแพทย์
    • ห้องไอซียู (ICU) ตามกรมธรรม์
    • ค่าตรวจวินิจฉัยขั้นสูง เช่น MRI/CT ตามเงื่อนไข
    • ค่าฟื้นฟูหลังการรักษา เช่น กายภาพบำบัด เวชศาสตร์ฟื้นฟู
  2. ผู้ป่วยนอก (OPD)
    • ค่าตรวจรักษาโดยแพทย์ทั่วไปและเฉพาะทาง
    • ค่ายา ตรวจเลือด เอกซเรย์ ตามวงเงินต่อครั้ง/ต่อปี
  3. การรักษาโรคร้ายแรง
    • ค่าใช้จ่ายการรักษาเฉพาะทาง เช่น เคมีบำบัด รังสีรักษา
    • วงเงินพิเศษสำหรับโรคเฉพาะ เพื่อให้ไม่กระทบวงเงินหลักของ IPD/OPD
    • บางแผนอาจมีเงินก้อนกรณีวินิจฉัยตามนิยามที่กำหนด
  4. อุบัติเหตุและฉุกเฉิน เป็นสัญญาเพิ่มเติม
    • ค่ารักษาฉุกเฉินใน 24 ชม. แรก
    • ค่ารถพยาบาล/เคลื่อนย้ายผู้ป่วย
    • กรณีอุบัติเหตุรุนแรง วงเงินอาจแยกเฉพาะเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่
  5. การดูแลต่อเนื่องที่บ้าน/การฟื้นฟู
    • เวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังอุบัติเหตุหรือผ่าตัด เพื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
  6. ผลประโยชน์ชดเชยรายได้ (ถ้ามี)
    • เบี้ยเลี้ยงรายวันระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
    • ช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ/เจ้าของกิจการ

ข้อควรทราบก่อนตัดสินใจ

  • ควรอ่านข้อยกเว้น ระยะเวลารอคอย และเงื่อนไขโรคที่เป็นมาก่อนอย่างละเอียด
  • ตรวจดูเพดานค่ารักษาต่อครั้ง/ต่อปี รวมถึงวิธีนับปีกรมธรรม์ (Policy year) ให้ชัด
  • สำรวจรายชื่อเครือโรงพยาบาล/คลินิกใกล้บ้านหรือเข้ารับการรักษาได้สะดวก
  • เปรียบเทียบค่าเบี้ยกับความคุ้มครองที่ได้รับ และพิจารณาความยืดหยุ่นในการปรับแผนในอนาคต

เมื่อพิจารณาความเสี่ยงด้านสุขภาพ ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นและไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนยุคใหม่ การตัดสินใจมี ประกันสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่คือการจัดสรรทรัพยากรอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณและครอบครัวได้รับการรักษาที่เหมาะสมโดยไม่กระทบเป้าหมายสำคัญของชีวิต แผนคุ้มครองสมัยใหม่ให้ทั้งความยืดหยุ่น ความโปร่งใสและการเชื่อมต่อบริการสุขภาพครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู

หากคุณชื่นชอบความชัดเจนเรื่องงบประมาณ ลองพิจารณาแผนที่จ่ายตามวงเงินรวมอย่าง ประกันสุขภาพเหมาจ่าย แต่ถ้าต้องการปกป้องอนาคตของครอบครัวในมิติรายได้และภาระหนี้ร่วมด้วย การพิจารณาแบบ ประกันชีวิตสุขภาพ จะทำให้ภาพรวมความคุ้มครอง ครบเครื่อง ยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ช่วงวัยใด วันนี้คือเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นวางแผน เลือกแผนความคุ้มครองและลงมือสร้างหลักประกันให้สุขภาพและการเงินไปพร้อมกัน และหากสนใจประกันสุขภาพ สามารถเข้าไปดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจาก SCB ได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance

ที่มาของข้อมูล