สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สมัชชาสุขภาพจังหวัดตรัง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และภาคีเครือข่ายภาคใต้ จัดงาน “สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14” ภายใต้แนวคิด 20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต ณ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง จ.ตรัง

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส.เผยถึงความมุ่งมั่นจัดงานครั้งนี้ว่า การจัดงานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14 มีเป้าหมายสำคัญเพือให้เกิด ‘ภาคใต้แห่งความสุข’ ที่เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนที่ต้องการขับเคลื่อนเครือข่ายสุขภาวะ ผสานพลังกันทั้งข้ามพื้นที่และข้ามประเด็น เพื่อสะท้อนถึงปัญหาจริงในภาคใต้และนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ตอบโจทย์พื้นที่ได้อย่างแท้จริง  โดยตั้งแต่ปี 2549 งานสร้างสุขภาคใต้ได้เริ่มต้นขึ้นในรูปแบบเวที ‘โชว์ แชร์ เชื่อม’ เพื่อเป็นพื้นที่ให้ภาคีเครือข่ายได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และสร้างความร่วมมือกัน จนพัฒนาสู่การใช้เครื่องมือสมัชชาสุขภาพที่เปิดโอกาสให้พลังทางสังคม ปัญญา และนโยบายได้บรรจบกัน ขับเคลื่อนสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ยั่งยืน ทำให้เกิดการกำหนดวาระสร้างสุขของภาคใต้ใน 4 ประเด็นหลัก และสื่อสารต่อสังคมผ่านเครือข่ายสื่อ 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

 “ท่ามกลางความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งทางสุขภาวะ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ งานสร้างสุขภาคใต้จึงเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดแนวทางการทำงาน และผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะพัฒนาภาคใต้ให้ก้าวข้ามข้อจำกัด และมุ่งสู่ความสุขอย่างยั่งยืน โดยได้ต่อยอด 4 ประเด็นสำคัญ พัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 1. ความมั่นคงทางอาหาร ขับเคลื่อนระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน 2. ความมั่นคงทางมนุษย์ สานพลัง ‘5 ดี’ สู่วิถีความสุข ให้ทุกกลุ่มวัยได้เข้าถึง การเรียนดี ดูแลดี เศรษฐกิจดี ที่อยู่อาศัยดี และสังคมดี  3. ความมั่นคงทางสุขภาพ เน้นการสร้างเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย และป้องกันปัญหาบุหรี่ โรคไม่ติดต่อ และสุขภาพจิต  4. ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันการจัดการทรัพยากร ‘จากภูผาสู่มหานที’ รวมถึงการบริหารจัดการภัยพิบัติ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน”นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เน้นถึงเป้าหมาย

ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการ สช. ร่วมให้ข้อมูลว่า  กิจกรรมสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 เป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นพลังของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เป็นพื้นที่ที่ทำให้เสียงของประชาชนจากทุกสาขาอาชีพและทุกกลุ่มวัย สามารถส่งต่อไปสู่การกำหนดนโยบายสาธารณะ ตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา งานสร้างสุขภาคใต้พิสูจน์แล้วว่า การใช้เครื่องมือสมัชชาสุขภาพเป็นกลไกหลักสามารถเชื่อมพลัง 3 ด้าน พลังทางสังคม พลังทางปัญญา พลังเชิงนโยบาย ข้อเสนอจากเวทีนี้ไม่ได้พัฒนาแค่ในระดับจังหวัดหรือภูมิภาค แต่ยังถูกนำไปเชื่อมโยงกับการตัดสินใจในระดับชาติ ทำให้ภาคีเครือข่ายในพื้นที่เกิดความเข้มแข็งและสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวในนามเจ้าภาพกิจกรรมครั้งนี้ว่า จ.ตรังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต” หรือ งานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก สสส. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง และภาคีเครือข่าย การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่ จ.ตรังจะได้ต้อนรับทุกท่านจาก 14 จังหวัดภาคใต้ และได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดตรังในฐานะเมืองแห่งความสุขและความหลากหลาย ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า จ.ตรังพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนงานสุขภาวะในทุกมิติ ทั้งงบประมาณ กลไกความร่วมมือ และการอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน  

นายไมตรี จงไกรจักร์ ตัวแทนเครือข่ายสร้างสุขภาคใต้  ร่วมขยายความถึงผลที่จะได้จากกิจกรรมว่า ปัจจุบันมีเครือข่ายย่อยกระจายกว่า 137 เครือข่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ ผลลัพธ์จากทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ความมั่นคงทางอาหาร พัฒนาขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนและวนเกษตร เช่น แปลงต้นแบบสวนยางผสมผสาน 20 แปลงในชุมพร–ระนอง ยกระดับเป็น ‘ชุมชนสีเขียว’ 5 รูปแบบในพื้นที่นำร่อง 21 พื้นที่ทั่วภาคใต้ ความมั่นคงทางสุขภาพ เกิดกองทุนส่งเสริมสุขภาวะระดับจังหวัด และคณะกรรมการสุขภาวะระดับจังหวัด เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาปัจจัยเสี่ยง ความมั่นคงทางมนุษย์ มีการเตรียมรับมือสังคมสูงวัย ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ โดยมีแผนรองรับ 5 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันพื้นที่พิเศษท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ เช่น ศาลาด่านโมเดล จ.กระบี่ และ มะรุ่ยแห่งความสุข จ.พังงา รวมถึงข้อเสนอการจัดการภัยพิบัติ