สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี ร่วมกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.), ศูนย์กู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี, เครือข่ายกู้ภัยสิงห์อาสา มูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง จังหวัดนครปฐม และบริษัท สิงห์ เบเวอเรช จำกัด บริษัทในเครือฯ เปิดโครงการ “สิงห์อาสา CPR 10,000 อาสาสมัครชุมชน” ครั้งแรก เพื่อสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในชุมชน ให้มีทักษะการกู้ชีพขั้นพื้นฐานและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยจำนวนมาก โดยหลักสูตรประกอบด้วยการฝึกอบรมทักษะการทำ CPR และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) อย่างถูกวิธีให้กับประชาชนกว่า 250 คนในอ.บางเลน และ อ.ลาดบัวหลวง จ.นครปฐม โดยโครงการนี้มีความตั้งใจจะกระจายการจัดอบรมไปใน 10 จังหวัดบริษัทในเครือบุญรอดฯ ทั่วประเทศทุกภูมิภาค

คุณรวินทร์ ชมพูนุชธานินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มประชาสัมพันธ์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า "ภาวะหัวใจหยุดเต้นเกิดขึ้นได้ทุกที่ และเป็นเหตุการณ์ที่สามารถพบได้ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนในครอบครัว และเรามี '4 นาทีทอง' ที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยก่อนที่สมองจะขาดออกซิเจนและเสียชีวิตไปในที่สุด การสร้างความรู้และทักษะที่ถูกต้องจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ และนับเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มอัตราการรอดชีวิต และลดการสูญเสีย นี่จึงเป็นภารกิจสำคัญของสิงห์อาสาเพื่อสังคมไทย ที่สำคัญคือผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำทักษะความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปถ่ายทอดต่อให้กับบุคคลอื่นต่อไป จะทำให้เรามีผู้ที่สามารถทำ CPR และใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก”

พญ.ณธิดา สุเมธโชติเมธา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี2(รังสิต) กล่าวว่า “จากสถิติผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาล หากไม่ได้รับการทำ CPR เลย จะมีอัตราการรอดชีวิตต่ำมาก เฉลี่ยเพียง0-4% สำหรับประเทศไทยปัจจุบันมีอัตรารอดชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ในยุโรปที่สามารถมีอัตราการรอดชีวิตสูงถึง 40-60% ทั้งนี้ ในประเทศไทยแม้จะมีการทำ CPR แล้ว อัตราการรอดชีวิตโดยเฉลี่ยยังอยู่เพียง 7-10% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างความรู้และทักษะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน สำหรับโครงการ “สิงห์อาสา” ในครั้งนี้ จะมีการสอนทั้ง การทำ CPR และ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่าง ศูนย์กู้ชีพนเรนทร และ สิงห์อาสา โดยเราคาดหวังให้ประชาชนมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะฉุกเฉิน สามารถทำ CPR และใช้ AED ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงรู้วิธีการเรียกขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยมากที่สุด”

ด้าน น.ส.จิราวรรณ สุวรรณเจริญ ตัวแทนกู้ภัยที่มาร่วมสอนในวันนี้ จากศูนย์การเรียนรู้ฯ มูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง ได้แบ่งปันประสบการณ์และเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า "สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ทักษะทางการแพทย์ แต่คือ ทักษะชีวิต ที่ใครก็สามารถเรียนรู้และช่วยเหลือผู้อื่นได้ โครงการนี้มีคุณค่าอย่างมาก เพราะทำให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้และทักษะในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ด้วยส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ตรงที่ต้องสูญเสียคุณแม่จากภาวะหัวใจหยุดเต้น เพราะไม่มีใครในครอบครัวรู้วิธีทำ CPR กว่าจะถึงมือแพทย์ก็สายไป ทำให้ตระหนักว่า หากมีใครสักคนรู้วิธีปั๊มหัวใจ ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนไปได้ เพราะแค่คุณกล้าลงมือปั๊มหัวใจ คุณอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครสักคนได้มีชีวิตต่อ โอกาสรอดของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับแค่สองมือเปล่าของคุณในนาทีนั้น อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางกั้นการช่วยชีวิต เพราะทุกการกดลงไปอย่างมีคุณภาพและความรู้คือโอกาสใหม่ของชีวิตคนหนึ่งเสมอ"

โครงการ "สิงห์อาสา CPR 10,000 อาสาสมัครชุมชน" โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด นับเป็นความมุ่งมั่นของสิงห์อาสาและพันธมิตร ในการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครที่มีความพร้อม เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะในชุมชน พื้นที่สาธารณะ หรือแม้แต่คนใกล้ตัว และสร้างสังคมที่แข็งแกร่งและปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะทุกชีวิตมีค่า