“กฎหมายที่จำเป็นสำหรับการบริหารความเสี่ยง” เสริมศักยภาพผู้นำองค์กร
หลักสูตร Super LBA รุ่นที่ 2 โดยคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ติวเข้มต่อเนื่อง ใน Module 2 ภายใต้หัวข้อ “กฎหมายที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการประกอบธุรกิจ (ต่อ)” ณ ห้องประชุม ดร. ไสว สุทธิพิทักษ์ อนุสรณ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้บริหารระดับสูง โดยมุ่งเน้นการติดอาวุธทางปัญญาด้านกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการบริหารความเสี่ยง และสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคที่โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้ในครั้งนี้เป็นการเสริมเนื้อหาในเชิงลึกยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ที่สมบูรณ์และนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของหลักสูตร SUPER LBA รุ่นที่ 2 ที่ต้องการให้ผู้เรียนใช้ประโยชน์จากกลไกทางกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ
โดยการอบรมได้รับการบรรยายจากสุดยอดเซียนกฎหมาย อาทิเช่น คุณปัญญา สิทธิสาครศิลป์ Partner บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด แชร์ประสบการณ์ในหัวข้อ “การวางแผนทางภาษี: กฎหมายภาษีอากร” ตามด้วย คุณนที ศรีลาเจริญ และ คุณธวัชชัย บุญมายะพันธุ์ Partner บริษัท Chandler Mori Hamada จำกัด ที่ร่วมกันบรรยายเกี่ยวกับ “ทางออกของธุรกิจที่มีปัญหา: การใช้ประโยชน์จากกลไกของกฎหมายฟื้นฟูกิจการ” ปิดท้ายด้วยการบรรยายจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ในประเด็น “การดำเนินธุรกิจเชิงรุกเพื่อรับมือปัญหาการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม” ซึ่งเป็นการนำเสนอองค์ความรู้แบบครบวงจรที่จำเป็นสำหรับผู้นำองค์กรศตวรรษที่ 21
"ภาษีไม่ใช่ภาระ" พลิกค่าใช้จ่าย เป็นโอกาสทางการเงิน
ในการบรรยายหัวข้อแรก คุณปัญญา สิทธิสาครศิลป์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนภาษีอากรในยุคปัจจุบัน โดยชี้ให้เห็นว่าการวางแผนภาษีที่ดีไม่เพียงช่วยประหยัดภาระภาษีได้อย่างมหาศาล แต่ยังสามารถนำเงินส่วนที่ประหยัดได้ไปต่อยอดการลงทุน เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
คุณปัญญา ยังได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลไกภาษีของประเทศไทยที่พึ่งพิงภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นหลัก โดยระบุว่าทั้งสองส่วนมีสัดส่วนประมาณ 28% และ 23% ของรายได้รัฐบาลตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้แนะนำแนวทางการวางแผนภาษีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การทำความเข้าใจภาษีประเภทต่างๆ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่มีอัตราภาษี 20% แต่เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลแล้วจะมีอัตราภาษีที่แท้จริงประมาณ 28% เป็นต้น
“นอกจากนี้ยังมี ภาษีมรดก ซึ่งมีเกณฑ์เริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท รวมถึงภาษีการให้ ที่ออกมาพร้อมกันเพื่อป้องกันการโอนทรัพย์สินราคาถูก” พาร์ทเนอร์แห่งเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ระบุ
คุณปัญญา ยังได้นำเสนอเครื่องมือสำคัญในการวางแผนภาษี ได้แก่ โครงสร้างบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการทรัพย์สินของครอบครัวและช่วยในการเลื่อนการเสียภาษี (Tax Deferral) ทำให้สามารถประหยัดภาษีได้ 10% ของเงินปันผลที่นำไปลงทุนต่อ และยังกล่าวถึงโครงสร้างทรัสต์ (Trust Structure) ที่ได้รับความนิยมหลังมีกฎหมายภาษีมรดก โดยทรัสต์ทำหน้าที่เสมือนนิติบุคคล ทำให้เมื่อผู้ก่อตั้งเสียชีวิต ทรัสต์ยังคงอยู่และไม่ต้องเสียภาษีมรดก อย่างไรก็ตาม กฎหมายไทยยังไม่มีกฎหมายทรัสต์โดยเฉพาะ จึงต้องประยุกต์ใช้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องและอาศัยความเชี่ยวชาญจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและภาษีโดยเฉพาะ
ในช่วงท้ายของการบรรยาย ยังหยิบยกเอา นโยบายภาษีระหว่างประเทศอย่าง “ภาษีทรัมป์” ของสหรัฐอเมริกา และแนะนำว่าธุรกิจไทยสามารถปรับตัวได้โดยการพิจารณาการจัดหมวดหมู่สินค้า และแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อลดฐานภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
ไม่ใช่แค่รอด-แต่กลับมาแข็งแกร่ง
ด้าน คุณนที ศรีลาเจริญ และ คุณธวัชชัย บุญมายะพันธุ์ Partner บริษัท Chandler Mori Hamada จำกัด ทั้งสองท่านได้ตอกย้ำถึง “การฟื้นฟูกิจการเพื่อรักษาสภาพธุรกิจ” และ “ประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” ทั้งเจ้าหนี้ ลูกจ้าง และคู่ค้า ซึ่งดีกว่าการปิดกิจการและเข้าสู่การล้มละลายที่มักทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้น้อยมาก
การบรรยายยังลงโดยชี้ให้เห็นถึง “เงื่อนไข” ในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอย่างชัดเจนว่า ลูกหนี้ต้องมีหนี้สินล้นพ้นตัวและมีหนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังต้องมีเหตุผลอันสมควรและมีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน ขั้นตอนสำคัญของกระบวนการจะเริ่มต้นเมื่อศาลรับคำร้อง ทำให้เกิดสภาวะพักชำระหนี้ (Automatic Stay) ทันที ซึ่งช่วยให้ลูกหนี้มีโอกาสหายใจและจัดทำแผนได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหนี้ทุกรายจะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน นับจากวันที่มีประกาศคำสั่งศาลในราชกิจจานุเบกษา
หลังจากนั้นได้มีการยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ อย่าง บมจ.การบินไทย ที่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้งหลังจากการฟื้นฟูกิจการ โดยได้มีการยกเลิกสัญญาเช่าเครื่องบิน A380 และเจ้าหนี้ที่ถูกยกเลิกสัญญานั้นได้รับชำระหนี้ 17% ของค่าเสียหาย และ ยกตัวอย่างกรณีที่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น คลินิกเสริมความงามและบริษัทประกันภัยชื่อดัง ซึ่งศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่มีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ทางกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจที่ถูกกำกับดูแล สามารถใช้กลไกการฟื้นฟูกิจการเพื่อหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลปกติของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอยู่แล้ว
‘เล่นตามกฎ’ ก็นำเกมเหนือคู่แข่งได้ เพียงเข้าใจกฎหมายแข่งขันทางการค้า
ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้ให้หลักคิดผู้ประกอบการต้องเข้าใจและรู้จักใช้พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ให้เป็นทั้งเกราะป้องกันและอาวุธในการแข่งขัน กฎหมายนี้มีขอบเขตบังคับใช้กับทุกธุรกิจ ยกเว้นหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้เงื่อนไข
ผศ. ดร. วิษณุ ยังได้เปิดมุมมองพฤติกรรมที่กฎหมายควบคุมไว้อย่างชัดเจน “โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่เป็นการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งถือเป็นความผิดที่พบได้บ่อย” พร้อมอธิบายว่าพฤติกรรมเหล่านั้นรวมถึงการผูกขาด หรือการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ (มาตรา 50) ที่มีโทษทางอาญา การกระทำอันเป็นการค้าที่ไม่เป็นธรรม (มาตรา 57) ที่มีโทษทางปกครอง และการควบรวมธุรกิจ (มาตรา 51) ที่อาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงการฮั้วกันในตลาดเดียวกัน (มาตรา 54) ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงและมีโทษทางอาญา
สำหรับ ตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เช่น กรณีการทำโปรโมชั่นของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่หลังการเข้าซื้อกิจการของคู่แข่ง และการตอบโต้ที่แม้จะดูเป็นการแข่งขันแต่ก็มีประเด็นเรื่องการนำทรัพย์ของผู้อื่นมาใช้โดยไม่ชอบธรรม นอกจากนี้ยังมีกรณีของธุรกิจเครื่องสำอาง ที่มีการรวมตัวกันของตัวแทนจำหน่ายเพื่อกดดันผู้ผลิตไม่ให้ส่งสินค้าให้ผู้ค้าที่ขายราคาถูกกว่า ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57 เช่นกัน
ทั้งนี้ การบรรยายที่เข้มข้นตลอดทั้งวันยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้ซักถามประเด็นข้อสงสัยอย่างเจาะลึก เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง ซึ่งมีคำแนะนำอันเป็นประโยชน์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที
สำหรับหลักสูตร Super LBA รุ่นที่2 มี ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เป็นประธานกรรมการหลักสูตร เพื่อเสริมสร้างความสามารถแก่ผู้นำองค์กรด้วยการบูรณาการความรู้ด้านกฎหมาย เทคโนโลยี และนวัตกรรม ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคใหม่


