คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดกิจกรรมปิดท้าย “วิชาเตรียมความพร้อม” สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ให้ทำงานศิลปะชิ้นใหญ่ร่วมกัน จากแรงบันดาลใจผลงานของศิลปินระดับโลก ปาโบล ปิกัสโซ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกทั้งทักษะพื้นฐานด้านศิลปะ การใช้เครื่องมือดิจิทัล และซอฟต์สกิล เช่นการวางแผน และการทำงานเป็นทีม พร้อมปลูกฝังการมองเห็นคุณค่าของการต่อยอดผลงานสู่เชิงพาณิชย์

ผศ.กมลวรรณ พัชรพรพิพัฒน์ สารสุข หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า กิจกรรมนี้ออกแบบให้เชื่อมโยงจากสิ่งที่เรียนในห้อง เช่น การวาดภาพพื้นฐาน การใช้เส้น การจัดองค์ประกอบภาพ การสร้างมิติด้วยเพอร์สเปกทีฟ การวาดวิว และการเชื่อมโยงภาพจากจินตนาการ และการใช้เครื่องมือดิจิทัล ฝึกใช้ปากกา Wacom สำหรับการสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัล ซึ่งหลายคนก็ยังไม่เคยใช้มาก่อน รวมถึงโปรแกรมพื้นฐานอย่าง Adobe Photoshop และ Adobe  Illustrator

กิจกรรมปิดท้ายนี้ตั้งใจให้เป็น โปรเจกต์ชิ้นใหญ่แบบทำงานร่วมกัน ที่จะท้าทายมากกว่าการทำงานเดี่ยวในห้องเรียน ทั้งยังสร้างประสบการณ์ให้เห็นภาพว่า เมื่อเข้าสู่เทอม 1 จริง ๆ จะต้องเจอกับการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่งานที่ใช้ทักษะดิจิทัลผ่านคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงงานวาดมือลงสีสร้างสรรค์ที่ต้อง “เลอะเปรอะ” ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการทำงานในสายศิลปะ

กิจกรรมไฮไลต์การรีโปรดักชันงานปิกัสโซแบบงานกลุ่ม  ผศ.กมลวรรณ เปิดเผยว่า นักศึกษาทำการวิเคราะห์ศึกษาเส้น  สี และองค์ประกอบจากผลงานปิกัสโซจากภาพต้นฉบับขนาด A4 จากนั้นให้คำนวณและวางสเกลขึ้นเป็นคัตเอาต์ขนาดใหญ่ โดยมีรุ่นพี่คอยไกด์วิธีการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน แบ่งทีมตามกลุ่มการเรียน ซึ่งมีทั้งหมด  4 เซกชั่น ร่วมกันสร้าง 4 ผลงานใหญ่   เรียนรู้ผ่านการลงมือจริงทั้งวัน ซึ่งอาจารย์กำหนดให้ใช้เวลา ประมาณ 6 ชั่วโมง   แต่บางทีมสามารถบริหารจัดการงานจนสำเร็จเสร็จสิ้นได้ภายใน3 ชั่วโมงเท่านั้น  แต่ละทีมก็แตกต่าง ต่างมีบทบาทที่หลากหลาย ตั้งแต่คนสเก็ตช์ภาพ คนจัดการวัดสเกล คนผสมสี คนระบายสี คนทำความสะอาดอุปกรณ์ คนถ่ายภาพเก็บงาน ไปจนถึงคนที่คอย “เอนเตอร์เทน” เสริมพลังทีม ทุกคนได้มีส่วนร่วมจริงและได้ฝึกรู้จัก “ภาษาของสี” แบบเข้มข้นโดยการผสมสีให้ “ได้โทนจริง” เช่น การผสมม่วงให้ใกล้เคียงกับงานต้นฉบับของปิกัสโซ ฝึกตาและฝีมือไปพร้อมกัน ทั้งนี้งานสวยๆจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับการหนุนเสริมด้วยภาคีพันธมิตรทางการออกแบบ โดยทางคณะได้รับการสนับสนุนสีจาก บริษัทนิปปอนเพนต์ ที่ยกถังสีมาให้ และในงานโชว์ยังมี บริษัท เอปสัน ประเทศไทย จำกัด บริการเครื่องรีดร้อน ให้นักศึกษาได้สกรีนผลงานลงบนเสื้อ แก้ว กระบอกน้ำ ให้เห็นศักยภาพเชิงพาณิชย์ของงานนักศึกษา ขณะเดียวกันยังมีผู้สนับสนุนจัดเลี้ยงอย่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน ที่สนับสนุนอาหารจาก KFC, เอส โคล่า และ คริสตัล เพื่อสร้างบรรยากาศการเฉลิมฉลองผลงานในรูปแบบที่ศิลปินคนทำงานศิลปะทำกัน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักศึกษา คือฮาร์ดสกิลหรือทักษะทางศิลปะ ได้แก่ การวาดภาพ การผสมสี การลงมือทำ  และซอฟท์สกิล ได้แก่การวางแผน งานเป็นทีม การสื่อสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้า การบริหารเวลา และความรับผิดชอบร่วมกันในทีม

นอกจากนี้ความภาคภูมิใจและการยอมรับคือ ผลงานถูกนำไปตั้งแสดงในพื้นที่โชว์เคสของคณะ มีผู้สนใจหยุดชมและถ่ายภาพ และมีหน่วยงานภายนอกติดต่อขอนำผลงานไปจัดแสดงต่อ ตลอดจนเห็นทางไปต่อเชิงพาณิชย์ จาก “งานในห้อง” สู่ “สินค้าที่จับต้องได้” ผ่านการพิมพ์สกรีน ทำให้เห็นเส้นทางพัฒนาผลงานเป็นโปรดักต์สำหรับตลาดจริง

หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ยังระบุถึง เหตุผลที่ “ปีนี้” พิเศษกว่าปีก่อน โดยกิจกรรมยกระดับจาก “งานชิ้นเล็กในห้อง” สู่ โปรเจกต์ชิ้นใหญ่แบบร่วมมือกัน ตั้งแต่ปี 1 ทำให้นักศึกษาสัมผัสงานสเกลใหญ่ตั้งแต่ต้น เรียนรู้การประสานงานกับเพื่อนและรุ่นพี่ เกิดความรู้สึก “เป็นเจ้าของงานร่วม” และมองเห็นบทบาทของตนเองในสายการทำงานจริง

อาจารย์กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากประสบการณ์ของอาจารย์ กลุ่มนักศึกษาหลังโควิดเริ่มคุ้นชินการใช้ชีวิตนอกจอมากขึ้น กล้าหยิบจับวัสดุ ลงมือทำงานจริง พบปะผู้คน งานที่ออกมาจึง “สด” และสะท้อนความเป็นมนุษย์ชัดเจนขึ้น ตัวอย่างเช่น งานออกแบบลายผ้าหัวข้อ “Universe of Happiness” ที่นักศึกษาถ่ายทอดความสุขจาก “บ้านคุณยาย” ผ่านองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านและธรรมชาติ กลายเป็นลวดลายที่มีเรื่องเล่า ทั้งนี้ผลงานเด่นจากรายวิชาจะถูกคัดเลือกต่อยอดไปสู่เวทีประกวดของ B2S

ผศ.กมลวรรณ กล่าวถึงธรรมเนียมของคนเรียนศิลปะคือ “ทำแล้วต้องโชว์” ทุกปีจะมีปาร์ตี้โชว์ผลงาน พร้อมเลี้ยงฉลอง ร่วมเล่นเกมระหว่างพี่น้องและอาจารย์ และในปีนี้นักศึกษาได้เห็นผลงานตัวเองถูกแปลงเป็นโปรดักต์จริง ทำให้เข้าใจว่า พื้นฐานที่เรียนในปี 1 สามารถต่อยอดเป็นงานขายได้ และเมื่อต่อยอดสู่ปี 2 จะสามารถพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้อย่างอิสระ

 “เราต้องการให้นักศึกษาปี 1 มองเห็นภาพรวมของการเรียนศิลปะตั้งแต่ต้น ทั้งทักษะพื้นฐาน การใช้เทคโนโลยี การทำงานร่วมกัน และการต่อยอดสู่การตลาด เพื่อให้เมื่อเรียนต่อไป นักศึกษาจะมีกรอบความคิดและความมั่นใจที่จะสร้างสรรค์งานได้ด้วยตัวเอง” ผศ.กมลวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ในส่วนของนักศึกษาที่ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ได้แก่ น.ส.ไอลดา บุตรน้อยค่ะหรือ “น้องเอิร์น” นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบกราฟิก พร้อมเพื่อนๆร่วมสาขา ได้แก่ นางสาววีตะวัน เสาร์วงศ์ หรือ “น้องวีวิม” นายพีรพล เที่ยงพลับ หรือ “น้องนนท์” และนายกรกต ระยาย่อย หรือ “น้องแม็ก” และอีกหลายๆคนที่ร่วมกันลงมือสร้างงานศิลปะสเกลใหญ่จากผลงานของปิกัสโซ ตั้งแต่ขั้นวางแผน ออกแบบ จนถึงการเก็บรายละเอียด เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์ที่สุด

น้องเอิร์น เล่าว่า กิจกรรมนี้เป็นการทำงานร่วมกันของเพื่อนๆทั้งรุ่น ซึ่งเป็นนักศึกษาจาก 3 สาขาวิชาเอก ได้แก่ สาขาการออกแบบธุรกิจแฟชั่น การออกแบบกราฟิก และการออกแบบสภาพแวดล้อมภายใน โดยแต่ละเซกชั่นจะได้รับผิดชอบการสร้างผลงาน 1 ชิ้น จากภาพต้นฉบับขนาด A4 ขยายสเกลขึ้นบนเฟรมขนาดใหญ่ ขั้นตอนเริ่มจากการวิเคราะห์เส้น สี และองค์ประกอบของภาพต้นแบบ วางแผนการสเก็ตช์และวัดสเกล ก่อนลงมือทำจริงตลอดทั้งวัน

“ตอนแรกค่อนข้างตกใจที่อาจารย์มอบโจทย์ให้ทำ เพราะไม่เคยวาดภาพบนเฟรมใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แต่เมื่อเริ่มทำงาน เพื่อน ๆ ในกลุ่มได้แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทั้งการสเก็ตช์ภาพ วัดสัดส่วน ผสมสี ระบายสี และตัดเส้นเก็บงาน โดยอาจารย์ได้เตรียมแม่สีหลักของNippon paintมาให้ เช่น แดง น้ำเงิน เหลือง ขาว และดำ เพื่อให้นักศึกษานำมาผสมสีให้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งต้องค่อย ๆ ปรับ เพิ่ม หรือลดสีจนได้โทนที่ต้องการ” นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขากราฟิก กล่าว

น้องเอิร์น กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้เห็นผลงานของตนเองในสเกลใหญ่  กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะด้านศิลปะ แต่ยังเปิดโอกาสให้เรียนรู้การทำงานเป็นทีมและการเข้าสังคม จากเดิมที่บางคนไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน เมื่อได้มาร่วมกันผสมและลงสี ก็ทำให้สนิทกันมากขึ้นได้แลกเปลี่ยนเทคนิคการวาดและการผสมสี อีกทั้งยังได้ฝึกควบคุมน้ำหนักการลงสีให้เหมาะสมกับแต่ละส่วนของภาพ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่สามารถนำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงานในอนาคตได้