หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงนวัตกรรมการจัดการสุขภาพยุคดิจิทัล หรือ HIDA โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดบรรยายพิเศษให้กับผู้เข้าอบรมหลักสูตร HIDA รุ่นที่ 5 ที่ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 ที่ผ่านมา
เริ่มต้นด้วยกิจกรรม “Happy Life” วิชาขับร้อง โดยอาจารย์อวัสดากานต์ ภูมี อาจารย์ประจำสาขาวิชาดนตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มาถ่ายทอดเทคนิคการหายใจ การออกเสียงเพื่อการขับร้อง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด และช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด ลดความวิตกกังวล ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
โอกาสนี้ได้รับเกียรติจากนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรยายพิเศษในหัวข้อ "ชวนดูแลสุขภาพกายและใจ ให้สมดุลกับ...ชวน หลีกภัย" นายชวน กล่าวว่าการรักษาโรคที่ดีที่สุด คือการป้องกัน ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เลือกรับประทานอาหารที่ดี เลี่ยงอาหารรสหวานจัด เค็มจัด ออกกำลังกายและพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดังนั้นการได้รับความรู้เรื่องโภชนาการที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐาน ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรังในอนาคต นอกจากนี้สุขภาพใจที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญ การบริหารสุขภาพใจที่ดี คือการรู้หน้าที่และความรับผิดชอบจะช่วยส่งผลต่อสุขภาพจิตในเชิงบวก เพราะการเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองและทำอย่างเต็มที่ จะช่วยสร้างความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณค่าในตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพจิตที่ดี เมื่อสุขภาพกายดี สุขภาพใจดีก็ช่วยให้ชีวิตมีความสมดุล
และในช่วงท้ายรองศาสตราจารย์ นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ได้ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ "ศิลปะในการดำรงชีวิต และการสร้างเสริมสุขภาพ" โดยเจาะลึกการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรค และแบ่งบันเทคนิคการใช้ชีวิตด้วยความเข้าใจในตนเองและผู้อื่น มีการพัฒนาบุคลิกภาพและมารยาททางสังคม เพื่อให้สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
สำหรับหลักสูตร HIDA รุ่นที่ 5 มีดร.สมชาย อัศวเศรณี เป็นประธานหลักสูตรฯ และพล.อ.ต.(ญ) ดร.พัชรี พิพิธสุขสันต์ เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร ที่มีการบูรณาการศาสตร์การแพทย์ 6 ศาสตร์ ได้แก่ การแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ดุลยภาพบำบัด โฮมีโอพาธีย์ และ ศาสตร์แห่งความสุข เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐและเอกชน ให้มีความรู้และทักษะในการจัดการสุขภาพยุคดิจิทัล ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมของศาตร์สุขภาพไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งกับตนเองและสามารถนำไปช่วยเหลือสังคมได้