ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง การกู้เงินธนาคารจึงกลายเป็นทางเลือกสำคัญของคนวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25-40 ปี ที่อยู่ในวัยสร้างอนาคตหรือเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ ข้าราชการ หรือแม้แต่อาชีพอิสระ เพราะรายได้ประจำอาจไม่พอใช้ หรือมีความจำเป็นเฉพาะหน้า เช่น ซ่อมบ้าน เจ็บป่วย เริ่มธุรกิจ หรือการศึกษาต่อ
แต่การ “กู้ธนาคาร” ไม่ใช่แค่การยื่นเอกสารแล้วรอเงินเข้าบัญชี หากขาดความเข้าใจ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สะสมที่ยากจะแก้ไขได้ในอนาคต ดังนั้น การรู้จัก “สินเชื่อธนาคาร” และการวางแผนอย่างรอบคอบจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
รู้จักประเภทของสินเชื่อธนาคาร
สินเชื่อธนาคารมีหลายประเภท และแต่ละแบบก็เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
-
สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan)
- สำหรับใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภค เหมาะกับพนักงานประจำ/ข้าราชการที่มีรายได้ประจำ
- ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- วงเงินอนุมัติอยู่ที่ 1-5 เท่าของรายได้
-
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Home Loan)
- สำหรับกู้ซื้อบ้าน/ปลูกสร้างบ้าน/รีไฟแนนซ์บ้าน
- ใช้บ้านเป็นหลักประกัน
- ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น
-
สินเชื่อรถยนต์ (Car Loan)
- สำหรับกู้ซื้อรถยนต์ใหม่/มือสอง หรือจำนำทะเบียน
- ใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน
-
สินเชื่อธุรกิจ (SME Loan)
- สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน เริ่มต้น หรือขยายกิจการ
- มีทั้งแบบสินเชื่อมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน
ขั้นตอนการกู้เงินธนาคารที่ควรรู้
การยื่นขอสินเชื่อธนาคารมักมีขั้นตอนคล้ายกัน แม้รายละเอียดอาจต่างกันไปบ้างตามแต่ละธนาคาร
-
ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง
- รายได้ขั้นต่ำ
- อายุ
- ประวัติเครดิตบูโร
-
เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม
- สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การกู้
- เปรียบเทียบเงื่อนไขและดอกเบี้ยจากหลายธนาคาร
-
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
- สำเนาบัตรประชาชน
- หนังสือรับรองเงินเดือน/สลิปเงินเดือน
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารแสดงทรัพย์สินหรือภาระหนี้อื่น (ถ้ามี)
-
ยื่นขอกู้กับธนาคาร
- ยื่นกู้ที่สาขา หรือบางธนาคารสามารถยื่นออนไลน์ได้
- เจ้าหน้าที่จะติดต่อเพื่อตรวจสอบและประเมินความสามารถในการชำระหนี้
-
รอผลอนุมัติและทำสัญญา
- หากผ่านการอนุมัติ จะมีการนัดเซ็นสัญญา
- เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีตามที่แจ้งไว้
ปัจจัยที่ทำให้กู้ธนาคารผ่านง่ายขึ้น
แม้สินเชื่อธนาคารจะดูเข้าถึงง่าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับการอนุมัติ ลองมาดูปัจจัยที่ธนาคารมักใช้พิจารณา
-
ประวัติทางการเงิน (เครดิตบูโร)
หากคุณเคยผ่อนชำระล่าช้า หรือผิดนัดชำระบ่อย จะมีผลต่อโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อครั้งต่อไป - รายได้สม่ำเสมอและมั่นคง
ยิ่งมีรายได้สูงและแน่นอน โอกาสจะได้รับอนุมัติยิ่งสูงขึ้น เช่น ข้าราชการ หรือพนักงานที่มีอายุงานมากกว่า 6 เดือน - ภาระหนี้เดิมไม่สูงเกินไป
ถ้าคุณมีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่ออื่นๆ จำนวนมาก โอกาสจะลดลง เพราะธนาคารอาจพิจารณาว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ไม่เพียงพอ
ข้อควรระวังหลังได้รับเงินกู้
- อย่าผ่อนเกินกำลัง
ควรวางแผนการเงินให้ดี อย่าสร้างภาระหนี้ที่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน - ชำระตรงเวลาเสมอ
เพราะหากผิดนัด แม้เพียง 1-2 ครั้ง อาจส่งผลต่อประวัติเครดิตบูโรของคุณ - อ่านสัญญาให้ครบทุกบรรทัด
โดยเฉพาะเรื่องค่าธรรมเนียม และเบี้ยปรับในกรณีผิดนัดชำระ
กู้ธนาคารอย่างมีวินัย สร้างอนาคตได้
การกู้เงินธนาคารไม่ใช่เรื่องผิด หากคุณมีการวางแผนและรับผิดชอบต่อการใช้เงิน การเลือก “สินเชื่อธนาคาร” ที่เหมาะสมกับตนเอง ช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนในเวลาที่จำเป็นโดยไม่ต้องพึ่งเงินนอกระบบที่มีความเสี่ยงสูง
จำไว้ว่า “กู้เงินธนาคาร” คือโอกาส ไม่ใช่ภาระ หากใช้อย่างชาญฉลาด