เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 “คมสันต์ โพธิ์คง” นักกฎหมายมหาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Komsarn Pokong ระบุว่า

ผมคิดว่าตรรกะของ รมช.กลาโหมที่บอกว่าไม่ยกเลิก MOU.43 เพราะสามารถใช้กล่าวหากัมพูชาได้เป็นตรรกะต่ำตม ด้วยเหตุผลดังนี้

๑. กัมพูชาละเมิด MOU.43 ถึง ๖๐๐ กว่าครั้ง โดยที่ฝ่ายไทยใช้ประโยชน์จาก MOU.43 มากว่าหลายร้อยครั้งด้วยการประท้วง แต่กัมพูชาไม่สนใจกลับละเมิดต่อเนื่องโดยอ้าง MOU.43 แสดงว่า การมี MOU.43 ไม่มีประโยชน์ต่อฝ่ายไทย เป็นการทำข้อตกลงที่ใช้ไม่ได้และเสียเปรียบ

๒. MOU.43 มีสถานะเป็นสนธิสัญญา ซึ่งต้องผ่านรัฐสภา แต่ MOU.43 และMOU.44 ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญทุกฉบับในประเทศไทย ตั้งแต่๒๔๗๕ จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นไม่ควรมีสภาพบังคับที่ใช้ได้ เพราะเป็นสนธิสัญญาที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ

๓. กระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องการการทำสนธิสัญญาและไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอาจต้องร่วมรับผิดทางอาญาหากสนธิสัญญาที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และหากส่งผลให้ประเทศไทยเสียดินแดนหรืออาณาเขตที่ประเทศไทยมีอธิปไตยเหนืออาณาเขต  ต้องรับผิดทางอาญามากขึ้น ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๒๐

หาก MOU.43 มีแล้วทำให้กัมพูชาสามารถละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยได้ และใช้ประโยชน์แค่การกล่าวหาหรือกล่าวโทษเท่านั้น โดยที่ MOU.43 เป็นสนธิสัญญาที่ขัดรัฐธรรมนูญไทยมาทุกฉบับ เป็นประโยชน์ที่มีอยู่น้อยนิด เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่มี ตรรกะวิบัติแท้นะท่าน

#MOU43 #คมสันต์โพธิ์คง #ไทยกัมพูชา #กลาโหม #ชายแดนไทย #อธิปไตยไทย #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #MOU44 #ขัดรัฐธรรมนูญ