ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ไม่เพียงแค่มุ่งเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและผู้บริโภค แต่ยังมุ่งมั่นที่จะร่วมกับภาคีเครือข่ายในการสร้างสังคมและชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยเน้นนำศักยภาพของพนักงานมาช่วยสร้างคุณค่าเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมตามเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน พ.ศ. 2568 (Sustainability Goals 2025) ขององค์กร ผ่านการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “ดาว มุ่งมั่นในการดำเนินการธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณค่า ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนโดยผนวกโซลูชันต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เรายึดมั่นในการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อให้โลกของเราน่าอยู่ และประสานความร่วมมือจากหลากหลายองค์กรเพื่อขยายผลกิจกรรมเพื่อสังคมให้ได้ประโยชน์แก่คนในจำนวนมากขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงชุมชนให้เป็นสังคมที่ยั่งยืน”
ในปี พ.ศ. 2561 กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการดำเนินโครงการสำคัญ ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสังคมไทยสู่สังคมที่ยั่งยืนอย่างมีส่วนร่วม อาทิโครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน โดยร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) หน่วยงานภาคเอกชน และมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดการปัญหาขยะและส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2570 ผ่านการส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานธุรกิจรีไซเคิล การส่งเสริมผู้ประกอบการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคและประชาชนในการคัดแยกขยะและจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางที่ถูกวิธี เพื่อสร้างวัฒนธรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการสร้างโมเดลเมืองสะอาดในพื้นที่นำร่องกรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย และจังหวัดระยอง
นอกจากนี้ ดาว ยังได้ผนึกกำลังกับ เอสซีจี ดำเนินโครงการความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีสำหรับถนนจากพลาสติกรีไซเคิล โดยนำพลาสติกใช้แล้วมาเป็นส่วนผสมในการสร้างถนนที่สามารถใช้สัญจรได้จริง มีความแข็งแรงมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนไม่ได้แตกต่างจากการทำถนนยางมะตอยโดยทั่วไป ปัจจุบันดาวและเอสซีจียังคงเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อขยายนวัตกรรมดังกล่าวไปสู่ชุมชน อย่างการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ที่นำนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้ก่อสร้างถนนเพื่อใช้งานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จากขยะที่เกิดขึ้นในภาคการผลิตของนิคมอุตสาหกรรมเอง นอกจากนี้ยังได้มีการลงนามความร่วมมือกับเอสซี แอสเสท ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ ที่จะช่วยกันส่งเสริมลูกบ้านให้คัดแยกขยะอย่างถูกต้องเพื่อนำมาใช้สร้างถนนในพื้นที่โครงการต่อไป
เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ดาว ยังได้ผสานความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดำเนิน โครงการ ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย สร้างการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมระบบการผลิตตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยโครงการสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 144 ล้านบาทต่อปี และช่วยให้ชุมชนโดยรอบมีความเป็นอยู่ที่ดีจากการมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอีกกว่า 9 แสนคน อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืนต่อไป
สังคมที่ยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ ดาว จึงได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรปลูกฝังทักษะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ หรือ STEM ให้แก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาประเทศเพื่อเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อาทิ โครงการห้องเรียนเคมีดาว ที่ส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนที่ได้รับการยอมรับจากยูเนสโก ทั้งยังลดปริมาณการใช้เคมี ลดภาระการกำจัดของเสีย ส่งเสริมทักษะและความรู้ความสามารถของบุคลากรครูกว่า 1,200 คน จากกว่า 600 โรงเรียนทั่วประเทศ และมีนักเรียนกว่า 60,000 คน ที่ได้รับประโยชน์ รวมทั้ง โครงการพัฒนาช่างเทคนิควิศวกรรมเคมี (V-ChEPC) ที่ดำเนินงานมาแล้วกว่า 11 ปี ซึ่งส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านการฝึกปฏิบัติงานจริงภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของโรงงาน อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมและส่งเสริมศักยภาพให้กับนักศึกษาในการก้าวสู่การเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพของสถานประกอบการต่อไป
จากความมุ่งมั่นดำเนินงานสานต่อภารกิจเพื่อสร้างความยั่งยืน ทำให้กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้รับการเชิดชูเกียรติต่าง ๆ อาทิ รางวัล “องค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2561 ระดับทอง” (AMCHAM CSR Excellence Recognition Award 2018) จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 รวมถึงได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณในฐานะองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ในสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี ซึ่งจัดโดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นองค์กรเดียวที่ได้รับพระราชทานโล่รางวัลในสาขานี้ประจำปี พ.ศ. 2561
“สำหรับปี พ.ศ. 2562 ดาว ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ และพยายามอย่างยิ่งยวดในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการประสานร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ และเปี่ยมด้วยพลังใจที่จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านความร่วมมือร่วมใจของพนักงานดาวอาสา เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนเพื่อคนรุ่นหลังสืบต่อไป” ฉัตรชัย กล่าว
ฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “ดาว มุ่งมั่นในการดำเนินการธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณค่า ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนโดยผนวกโซลูชันต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เรายึดมั่นในการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อให้โลกของเราน่าอยู่ และประสานความร่วมมือจากหลากหลายองค์กรเพื่อขยายผลกิจกรรมเพื่อสังคมให้ได้ประโยชน์แก่คนในจำนวนมากขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงชุมชนให้เป็นสังคมที่ยั่งยืน”
ในปี พ.ศ. 2561 กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการดำเนินโครงการสำคัญ ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสังคมไทยสู่สังคมที่ยั่งยืนอย่างมีส่วนร่วม อาทิโครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน โดยร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) หน่วยงานภาคเอกชน และมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดการปัญหาขยะและส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2570 ผ่านการส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานธุรกิจรีไซเคิล การส่งเสริมผู้ประกอบการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคและประชาชนในการคัดแยกขยะและจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางที่ถูกวิธี เพื่อสร้างวัฒนธรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการสร้างโมเดลเมืองสะอาดในพื้นที่นำร่องกรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย และจังหวัดระยอง
นอกจากนี้ ดาว ยังได้ผนึกกำลังกับ เอสซีจี ดำเนินโครงการความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีสำหรับถนนจากพลาสติกรีไซเคิล โดยนำพลาสติกใช้แล้วมาเป็นส่วนผสมในการสร้างถนนที่สามารถใช้สัญจรได้จริง มีความแข็งแรงมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนไม่ได้แตกต่างจากการทำถนนยางมะตอยโดยทั่วไป ปัจจุบันดาวและเอสซีจียังคงเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อขยายนวัตกรรมดังกล่าวไปสู่ชุมชน อย่างการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ที่นำนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้ก่อสร้างถนนเพื่อใช้งานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จากขยะที่เกิดขึ้นในภาคการผลิตของนิคมอุตสาหกรรมเอง นอกจากนี้ยังได้มีการลงนามความร่วมมือกับเอสซี แอสเสท ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ ที่จะช่วยกันส่งเสริมลูกบ้านให้คัดแยกขยะอย่างถูกต้องเพื่อนำมาใช้สร้างถนนในพื้นที่โครงการต่อไป
เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ดาว ยังได้ผสานความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดำเนิน โครงการ ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย สร้างการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมระบบการผลิตตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยโครงการสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 144 ล้านบาทต่อปี และช่วยให้ชุมชนโดยรอบมีความเป็นอยู่ที่ดีจากการมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอีกกว่า 9 แสนคน อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืนต่อไป
สังคมที่ยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ ดาว จึงได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรปลูกฝังทักษะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ หรือ STEM ให้แก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาประเทศเพื่อเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อาทิ โครงการห้องเรียนเคมีดาว ที่ส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนที่ได้รับการยอมรับจากยูเนสโก ทั้งยังลดปริมาณการใช้เคมี ลดภาระการกำจัดของเสีย ส่งเสริมทักษะและความรู้ความสามารถของบุคลากรครูกว่า 1,200 คน จากกว่า 600 โรงเรียนทั่วประเทศ และมีนักเรียนกว่า 60,000 คน ที่ได้รับประโยชน์ รวมทั้ง โครงการพัฒนาช่างเทคนิควิศวกรรมเคมี (V-ChEPC) ที่ดำเนินงานมาแล้วกว่า 11 ปี ซึ่งส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านการฝึกปฏิบัติงานจริงภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของโรงงาน อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมและส่งเสริมศักยภาพให้กับนักศึกษาในการก้าวสู่การเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพของสถานประกอบการต่อไป
จากความมุ่งมั่นดำเนินงานสานต่อภารกิจเพื่อสร้างความยั่งยืน ทำให้กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้รับการเชิดชูเกียรติต่าง ๆ อาทิ รางวัล “องค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2561 ระดับทอง” (AMCHAM CSR Excellence Recognition Award 2018) จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 รวมถึงได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณในฐานะองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ในสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี ซึ่งจัดโดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นองค์กรเดียวที่ได้รับพระราชทานโล่รางวัลในสาขานี้ประจำปี พ.ศ. 2561
“สำหรับปี พ.ศ. 2562 ดาว ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ และพยายามอย่างยิ่งยวดในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการประสานร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ และเปี่ยมด้วยพลังใจที่จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านความร่วมมือร่วมใจของพนักงานดาวอาสา เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนเพื่อคนรุ่นหลังสืบต่อไป” ฉัตรชัย กล่าว