เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ณ.มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้จัดพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2568 อย่างสมเกียรติและอบอวลด้วยบรรยากาศแห่งความเคารพรักและศรัทธา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี (มกธ.) เป็นประธานในพิธี พร้อมให้โอวาทแก่เหล่านักศึกษาทุกระดับชั้น ด้วยถ้อยคำที่เปี่ยมไปด้วยปัญญา แรงบันดาลใจ และคติสอนใจ อันเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ของมหาวิทยาลัยในการหล่อหลอมเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม
ศ.ดร.บังอร ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของ “ครู” ในฐานะผู้จุดแสงสว่างทางปัญญาให้กับศิษย์ พร้อมเชิญชวนนักศึกษาให้ตั้งมั่นในการเรียนรู้ด้วยความขยันหมั่นเพียร วิริยะ อุตสาหะ และซื่อสัตย์ต่อเป้าหมายในชีวิตอย่างมั่นคง สมกับการเป็น “ผู้สืบทอดมรดกทางปัญญา” ของชาติไทย
ภายในงาน ศ.ดร.บังอร ได้มอบธงมหาวิทยาลัยและธงประจำคณะแก่ผู้แทนนักศึกษาคณะต่าง ๆ รวมถึงมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้แก่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่มีผลงานโดดเด่น อาทิ หม่อมหลวงปุญยนุช เกษมสันต์, นายวรเดช รุกขพันธุ์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งบ่มเพาะบุคลากรคุณภาพระดับประเทศ
พิธีครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.ดร๊าฟ) และผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย และบุคคลในแวดวงการศึกษา สื่อสารมวลชน ดารานักแสดง นักกีฬา และผู้มีชื่อเสียงร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ เมย์ รัชนก อินทนนท์, วิวกุลวุฒิ วิทิตศานต์, น้องกิ๊ฟ กมลพร, น้องแสตมป์ พรวศิน, อัญชลี พุทธวงษ์ และ เปาเปา พงศ์สรรค์ ที่ล้วนเป็นตัวอย่างของนักศึกษาคุณภาพในยุคใหม่
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่ง “บ้านแห่งการเรียนรู้” คือกิจกรรม “รักษ์น้อง” เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาของแต่ละคณะ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในหมู่พี่น้องร่วมรั้วมหาวิทยาลัย สร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่น เอื้ออาทร และการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพรักในความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
พิธีไหว้ครูและกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ที่สะท้อนถึงภาวะผู้นำอันเปี่ยมวิสัยทัศน์ของ ศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล และความทุ่มเทของ รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ในการพัฒนาการศึกษาไทยอย่างยั่งยืนและทรงคุณค่า สมกับการเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำที่ไม่เพียงสร้าง “บัณฑิต” หากยังสร้าง “คนดี” เพื่อสังคมน่าอยู่และประเทศชาติต่อไป..