วันที่ 19 มิ.ย.68 "หมออั้ม" อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต ระบุว่า....

ตอนที่ได้ฟัง #คลิปเสียงนายกฯ ครั้งแรก

เลือดรักชาติมันพลุ่งพล่าน ผมเข้าใจ

เพราะฮุนเซนมันกวนประสาท ยั่วโมโหรายวัน

และเหมือนสื่อทั้งสองฝั่ง ไทย-กัมพูชา ก็เฮโลไป

ให้ความสำคัญกับการยั่วยุ ปลุกปั่นนั้น

หลายคนก็อยากให้นายกฯ ด่ากลับ หรือขึงขังใส่

บางคน ที่ไม่ประสาทางการเมืองมาก่อน

ก็ยิ่งเดือดและดีด อยากแสดงออกถึงความรักชาติ

อันนี้..ผมก็เข้าใจ

หลายคนมีต้นทุนเดิม มีความเกลียดชังชินวัตร

เกลียดชังคนเสื้อแดง เกลียดชังพรรคเพื่อไทย

อันนี้..หนักเลย หนักสุด..ผมก็โคตรเข้าใจ

แต่เรื่องพวกนี้ มันมีที่มาของมัน

และสำคัญที่กว่า คือมันอยู่บนพื้นฐาน

#เจตนาที่ดีของนายกฯ

นั่นคือ #สันติภาพชายแดน แบบไม่เสียเลือดเนื้อ

นายกฯ อยากเจรจาเองก่อน ทุกวิถีทาง

เป็นการภายใน ในฐานะที่คิดว่าคุยกับฮุนเซนได้

จากไมตรีเดิม ที่ฮุนเซนเคยช่วยเหลือผู้ลี้ภัยคนไทย

พูดตรงๆเลย ตั้งแต่สมัยนายกฯทักษิณ ยิ่งลักษณ์

หรือแม้แต่ประชาชนคนไทย ที่โดนคดีทางการเมือง

สมัยมีการรัฐประหารในไทย ครั้งแล้วครั้งเล่า

ต้องยอมรับว่า “ฮุนเซน” มีส่วนอย่างมาก

ในการให้ความช่วยเหลือ คนเหล่านั้น

ขนาดที่ว่า คุณทักษิณกลับมาไทยครั้งแรก

ในรอบ 17 ปี ฮุนเซนยังบินมาหา มาเยี่ยมที่ไทย

การทำงานของนายกฯ อยู่ในจุดที่ยากลำบาก

เพราะนอกจากจะต้องต่อสู้กับภัยภายนอกประเทศแล้ว

ก็ยังถูกกดดันจากสื่อ และ ความไม่เป็นเอกภาพของรัฐ

จากความเป็นรัฐบาลผสม ที่ค่อยปลุกปั่นรายวัน

ความหวาดระแวงกลุ่มทหารบางกลุ่ม และผู้มีอำนาจ

จากการถูกรัฐประหารซ้ำๆ มาตลอด

และในกรณีพิพาทนี้

ก็ท่าทีทหารใต้บังคับบัญชาบางส่วน

ที่แข็งกร้าว จนอาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว

อาจทำให้เกิดการรบพุ่งกัน ในพื้นที่ชายแดน

โดยเสียเปล่า โดยไม่จำเป็น

การเจรจาภายใน เพื่อยุติข้อขัดแย้ง

ทั้งที่ยังไม่เกิดความเสียหาย ไทยยังไม่เสียดินแดน

เราก็ต้องหว่านล้อมทุกวิธี แม้แต่การเอาใจ ล็อบบี้

ป้องปรามเขา ป้องปรามคนทำงานเรา

ที่เขาหมายหัวว่าไม่พอใจ หรือเคยมีประเด็น

ว่าในความเห็นบางอย่าง ที่ออกมารุนแรงนั้น

ไม่ใช่ทางการนะ อย่าเพิ่งยิงกัน คุยกันได้

ปรับความเข้าใจกันก่อน

สิ่งเหล่านี้ เป็นภาวะผู้นำขั้นสูง ที่ต้องกลืนเลือด

แบกรับทุกอย่าง อดทนอดกลั้นขั้นสุด

เพื่อลดความเสียหาย การบาดเจ็บล้มตาย

ของประชาชนทั้งสองฝ่าย..

ให้ผลที่ได้ คือ สันติภาพสันติสุขชายแดน

ถ้าเอาใจเขาใจเราไปใส่ แบบไม่หลอกตัวเอง

ถ้านายกฯ ไม่ถูกหักหลังจากฮุนเซนและพวก

บทสรุป ก็จะเกิดผลดีกับประชาชนทั้งสองประเทศ

แต่เมื่อถูกหักหลัง แล้วสถานการณ์ออกมาแบบนี้

จะมีหลายฝ่ายที่ได้ประโยชน์ เสียประโยชน์

ทั้งเรื่องการเมืองภายใน ของทั้งสองประเทศ

และเรื่องการเมืองในอนาคต ที่นโยบายรัฐบาลเพื่อไทย

ทำให้คนบางกลุ่ม เสียประโยชน์มหาศาล

อาทิ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ

กระทบบ่อน กระทบธุรกิจมืด ของประเทศเพื่อนบ้าน

ที่อาจมีนักการเมืองเรา เข้าไปเอี่ยวด้วย

จึงไม่แปลก ที่จะมีนักการเมือง พรรคการเมือง

อาศัยช่องเหตุการณ์นี้ ล้มรัฐบาลแพทองธาร

เพราะก็จ้องจะล้มอยู่แล้ว ทุกวิถีทาง

ในเวลาแบบนี้ ประเทศเรา ที่เสียหายมามากแล้ว

ผมเองในฐานะประชาชน ถ้าเลือกได้

ก็ไม่อยากมีการยุบสภาฯ ไม่อยากให้นายกฯลาออก

กว่าจะเริ่มใหม่ กว่าจะผ่านกฎหมาย กว่าจะอะไรๆ

กลับกัน อยากให้รัฐบาล สานต่องานต่างๆให้ลุล่วง

เพื่อปากท้องประชาชน เพื่อรากฐานเศรษฐกิจ

สะสางกฎหมาย เพื่อพัฒนาประเทศเรา

ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ จนกว่าจะครบเทอม

แล้ว “เลือกตั้งใหม่” ตามระยะเวลา

ให้ประชาชนตัดสินในเวลานั้น..

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้

ก็ขอให้กำลังใจทุกฝ่าย ทั้งนายกรัฐมนตรี

ทั้งรัฐบาล ทั้งกองทัพไทย และประชาชนคนไทย

หากต้องมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยปัจจัยต่างๆ

หากทุกสิ่ง เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย

เป็นไปตามกลไกของระบบสภาฯ ผมรับได้ทั้งหมด

เปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ในกลไกรัฐสภา

ก็ยังดีกว่า ที่ประเทศไทยเรา จะวนไปจุดเดิม

เจอการแทรกแซงด้วยการรัฐประหารอีก

นาทีนี้ ถ้าประเทศเรามีความแตกแยกภายใน

มันจะไม่มีใครชนะเลย ในประเทศไทย

ไม่ว่าส้ม เหลือง แดง น้ำเงิน เขียว หรือสีไหน

คนนั่งกระดิกขาได้ใจ คือ ฮุนเซน

เราจะเดินตามหมากที่เขาวางหรือ?

ฝากไว้ให้คิด