วันที่ 16 มิ.ย.68 พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Mammoth S Nutt ระบุว่า... 

หมายเหตุ…

1. รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรกัมพูชา เชื่อว่าการปักปันเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรทั้งสอง จะช่วยระงับความขัดแย้งตามชายแดนที่เกิดจากปัญหาเขตแดน และจะกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเอื้ออำนวยต่อความร่วมมือของประชาชนของประเทศทั้งสอง

หมายเหตุ : เจตนาที่ดี?

2. ด้วยปรารถนาที่ดีของทั้งสองประเทศ จึงได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ขึ้นในปี พ.ศ.2540 เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจาการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา

หมายเหตุ : ตามหลักสากลและประเทศที่เจริญทางความคิด?

3. ต่อมาได้จัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกในปี พ.ศ.2543 (MOU43) เพื่อเป็นกรอบ และกลไกในการปฏิบัติงานของทั้งสองฝ่าย มีอำนาจหน้าที่ในข้อ 3(1)(จ) ระบุว่า “จัดทำแผนที่แสดงเส้นเขตแดนทางบกที่ได้สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกแล้ว”

หมายเหตุ : ถ้าตีความก็คงหมายถึง ให้ได้แผนที่ใหม่และหลักเขตแดนทางบกที่ลากตามสันปันน้ำที่ถูกต้องตามที่ระบุในสนธิสัญญา อนุสัญญา ที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย?

4. MOU43 ข้อ 5 ระบุว่า “เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล ทั้งสองฝ่ายจะงดเว้นการดำเนินการใดๆที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน”

หมายเหตุ : ตั้งแต่มี MOU43 ฝ่ายกัมพูชาละเมิดโดยสร้างกาสิโน สร้างอาคารสิ่งปลูกสร้าง ตัดเส้นทาง ปลูกพืชไร่ กว่า 600 ครั้ง ฝ่ายไทยประท้วงให้แก้ไขแต่ได้รับความร่วมมือน้อยมาก ล่าสุดเผาศาลาตรีมุข นำกำลังเข้าขุดคูเลทล้ำอธิปไตยของไทย เราเจรจาก็ไม่ยอมถอนนำมาซึ่งการปะทะ ทัายสุดกดดันทุกทางกว่าจะถอนกำลังออกไป เพื่อนบ้านที่ดีควรทำหรือไม่?

5. MOU43 ข้อ 8 ระบุว่า “ให้ระงับข้อพิพาทใดๆที่เกิดขึ้นจากการตีความหรือการบังคับใช้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้โดยสันติวิธีด้วยการปรึกษาหารือและการเจรจา”

หมายเหตุ : คุยกันดีๆแล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?

เป็นเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม บอกกล่าวก็ดื้อด้าน ไม่ต้องมีข้อตกลงใดๆดีไหม เอาให้เละก่อนโต