“สมศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะถกผู้บริหาร สธ. สั่งเฝ้าระวังโรคช่วงหน้าฝน-ให้ศึกษาการรวมข้อมูลสาธารณสุขเป็นเซิร์ฟเวอร์เดียว เผย เชิญ”โอปอล”ร่วมรณรงค์ป้องกันมะเร็งในสตรี แย้ม เดินหน้าหารายได้ให้โรงพยาบาล ตั้งคณะทำงานระดับรองอธิบดี 1 ชุด ช่วยคิดนอกกรอบ
วันที่ 5 มิ.ย.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุม ที่กระทรวงสาธารณสุข
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตนขอเน้นย้ำว่า ช่วงนี้ เข้าหน้าฝนแล้ว ก็ขอให้กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังและเตรียมแผนรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคหน้าฝนด้วย เช่น โรคโควิด 19 โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งขอให้เน้นการสื่อสารให้ข้อมูลการดูแลสุขภาพและสุขภาวะตนเอง เพื่อลดความวิตกกังวล และผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนด้วย รวมถึงเรื่องตัวเลขและข้อมูล จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยรวมถึง สปสช. สสส. สช. ที่ผ่านมา ไม่ค่อยตรงกัน ตนก็ขอให้หาแนวทางการแก้ไขด้วย เรื่องการเก็บข้อมูล ตนมองว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเก็บไว้ที่เดียวเป็นเซิร์ฟเวอร์ เพราะในอนาคตข้อมูลด้านสาธารณสุข จะมีมากกว่ากระทรวงมหาดไทย เนื่องจากมีข้อมูลการรักษาของผู้ป่วย ดังนั้น ถ้ามีการแยกกันเก็บข้อมูล ก็จะพัฒนาต่อไปยาก จึงควรมีแผนพัฒนาระบบไอที เพราะในอนาคตอีก 10 ปี ก็ยังจะใช้ได้ โดยเรื่องนี้ ตนมองว่า น่าจะมีการทำการศึกษาอย่างชัดเจน จะได้ก้าวเดินแบบไม่สะดุด รวมถึงเรื่องนี้ เป็นความมั่นคงทางไซเบอร์ด้วย จึงควรมีการศึกษาและพัฒนารองรับสำหรับอนาคตด้วย
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนได้เชิญคุณโอปอล สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 กลับมาเยี่ยมกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 17 มิ.ย.68 ซึ่งจะหารือกรณีช่วยเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์เรื่องการคัดกรอง ป้องกันมะเร็งในสตรี รวมถึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยด้วย โดยคุณโอปอล เคยมากระทรวงสาธารณสุข ในช่วง มิ.ย.ปีที่ผ่านมา ซึ่งมาพูดคุยเรื่องโรคมะเร็งในสตรี ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก โดยเป็นเคมเปญหลักของคุณโอปอล ในการประกวด จึงเชิญกลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ ยังได้รับทราบความคืบหน้าการผลักดันสมุนไพรไทย นวดไทย โดยงบประมาณ ที่ขอเพิ่มในปีงบประมาณหน้า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มสมุนไพร 2,000 ล้านบาท นวดไทย หรือ แผนไทย 1,000 ล้านบาท ซึ่งดูจากสถิติการดำเนินการปีนี้ จากงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ได้ดำเนินการไปแล้ว 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประเมินดูแล้วจะใช้ได้ครบตามเป้า โดยเรื่องนี้ ตนเชื่อมั่นว่า จะเป็นทางออกให้กับเกษตรกรในการเพิ่มรายได้จากการปลูกสมุนไพร ตามแนวทางเศรษฐกิจสุขภาพ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ในระดับรองอธิบดี เพื่อมาช่วยคิดนอกกรอบ หรือ หารายได้ เช่น มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ผู้ป่วยใน คิดเป็น 8,350 บาท อาจจะถูกไปหรือไม่ ถ้าหากเราไม่พยายามใช้ให้สูง ก็มีอีกทางคือ หารายได้เข้ามาเสริม เช่น โครงการปิยมหาราชการุณย์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ควรคิดทำสิ่งเหล่านี้เพิ่มเติม ในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ หรือ เมืองใหญ่ ที่ประชาชนสมัครใจจ่าย หลังไม่อยากแย่งใช้สิทธิ 30 บาท โดยจะเป็นรายได้ให้กับโรงพยาบาล จะได้ไม่ต้องโต้เถียงว่าควรเพิ่มค่าผู้ป่วยในเป็นเท่าไหร่ แต่เราจะทำให้เป็นทางออก ที่เพิ่มเติมรายได้ จึงจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด
เมื่อถามถึงกรณีโรงพยาบาลขาดทุน อาจจะต้องให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ขึ้นมาบริหาร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ต้องโยกย้ายอยู่แล้ว โดยขณะนี้ มี 13 โรงพยาบาล ถ้าประเมินแล้ว ไม่สู้แล้ว ก็ต้องหาคนรุ่นใหม่ เข้าไปทำ
เมื่อถามถึงกรณีไรเดอร์โหด บุกยิงซ้ำคนเจ็บหน้าโรงพยาบาลเสียชีวิต นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยในที่ประชุม มีผู้ตรวจราชการ ให้ความเห็น เราควรปรึกษาตำรวจในพื้นที่ โดยให้ตำรวจวางแผนการดำเนินการ ซึ่งจะติดตั้งเครื่องมืออะไรบ้าง เพราะบางครั้ง อาจต้องใช้อุปกรณ์การป้องกันด้วย หรือ มีการซักซ้อม รปภ. เนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัยเฉพาะทาง