ประเทศไทย ถึงเวลาที่ต้องใช้ "คุณธรรมและปัญญา" เป็นเข็มทิศนำทาง

รศ.ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล


ในยุคที่โลกผันผวน ปัญหาซับซ้อน และการแข่งขันรุนแรง ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญ การพัฒนาที่เน้นแต่ตัวเลขทางเศรษฐกิจอาจไม่ยั่งยืนอีกต่อไป เสียงสะท้อนจากนักวิชาการหลากหลายแขนงชี้ชัดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องนำ "คุณธรรมและปัญญา" มาเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่คำสวยหรูบนกระดาษ แต่เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่นำไปปฏิบัติได้จริง


จากมุมมองของนักวิชาการด้านศาสนาและปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ และนักยุทธศาสตร์การพัฒนา จะเห็นได้ว่าแนวคิดเกี่ยวกับแผนฯนี้ไม่ใช่แค่การเติมส่วนผสม แต่เป็นการปรับโครงสร้างความคิดและวิธีการทำงานของทั้งประเทศ เพื่อให้ก้าวข้ามความท้าทายจากกระแสชาตินิยม ดุลอำนาจใหม่ และศาสนานิยมที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้นำทุกระดับ ตั้งแต่ทำเนียบรัฐบาลไปจนถึงผู้นำชุมชน
คุณธรรมและปัญญา หัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืน


ทำไมต้อง "คุณธรรมและปัญญา" คำตอบง่ายๆ คือ คุณธรรม เปรียบเสมือนเข็มทิศที่นำทางสังคมให้ดำเนินไปอย่างสันติสุข ลดความเห็นแก่ตัว ลดความขัดแย้ง และเสริมสร้างความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขณะที่ ปัญญา คือแสงสว่างที่ช่วยให้เราคิดวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แผนยุทธศาสตร์ที่ปราศจากสองสิ่งนี้ อาจนำไปสู่การพัฒนาที่ขาดทิศทาง ไม่ยั่งยืน และสร้างผลกระทบเชิงลบได้


แผนยุทธศาสตร์ 5 กลยุทธ์ สู่ประเทศไทยที่สมดุล เพื่อแปลงวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ แผนยุทธศาสตร์นี้ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์หลักที่เน้นการลงมือทำ


1. สร้างผู้นำต้นแบบ จุดประกายจากยอดปิรามิด
หัวใจสำคัญคือการสร้าง "ผู้นำคุณธรรมและปัญญา" ไม่ว่าจะเป็นผู้นำภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม พวกเขาคือฟันเฟืองแรกที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ผ่านหลักสูตรอบรมเข้มข้นที่เน้นความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบ การคิดเชิงระบบ และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ พร้อมสร้างเครือข่ายผู้นำต้นแบบ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผลไปทั่วประเทศ การยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้นำเหล่านี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเดินตามรอย


2. บูรณาการคุณธรรมและปัญญาสู่การศึกษา วางรากฐานตั้งแต่เด็ก
การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการศึกษา หลักสูตรในทุกระดับชั้นจะต้องไม่เพียงสอนวิชาการ แต่ต้องสอดแทรกการปลูกฝังคุณธรรมและพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ส่งเสริมให้ครูอาจารย์เป็นผู้ที่มีคุณธรรมและปัญญา รวมถึงขยายโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์


3. ส่งเสริมธรรมาภิบาล ความโปร่งใสคือกุญแจ
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้คือหัวใจสำคัญของการมีธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วน จำเป็นต้องยกระดับกฎหมายป้องกันการทุจริต เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ ทั้งในภาครัฐและเอกชน


4. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เติบโตอย่างมีคุณภาพ
เศรษฐกิจที่แท้จริงต้องไม่ใช่แค่การทำกำไร แต่ต้องสร้างคุณค่า การสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชนและธุรกิจ จะช่วยสร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เน้นคุณค่าทางวัฒนธรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ


5. สื่อสารและรณรงค์ สร้างค่านิยมใหม่ในสังคม
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นไปได้ ด้วยการใช้สื่อทุกแขนงรณรงค์ สร้างความตระหนัก และเผยแพร่เรื่องราวดีๆ ตัวอย่างของการนำคุณธรรมและปัญญามาใช้ในการพัฒนา รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์และเชิญชวนบุคคลผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดมาร่วมเป็นกระบอกเสียง ฝ่าฟันความเสี่ยง สร้างสังคมที่เข้าใจและยอมรับ
แน่นอนว่าการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่นี้ ย่อมมาพร้อมความท้าทาย โดยเฉพาะความเสี่ยงจากชาตินิยม ดุลอำนาจใหม่ และศาสนานิยม ดังนั้น การสื่อสารที่ชัดเจนว่า คุณธรรมและปัญญาเป็นหลักสากล ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกวัฒนธรรมและศาสนา ไม่ได้ผูกขาดกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คือสิ่งสำคัญ การสร้างกลไกที่เปิดกว้างและเป็นธรรมในการรับฟังความคิดเห็นจากทุกกลุ่มคนในสังคม จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างฉันทามติร่วมกัน


ข้อเด่นของการลงทุนในคุณธรรมและปัญญา ชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน
หากแผนนี้สำเร็จ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์มหาศาล ภาพทัศน์ที่จะเกิดขึ้นจากแผนและยุทธศาสตร์คุณธรรมและปัญญาเพื่อพัฒนาสังคม ได้แก่
สังคมสงบสุข  ความขัดแย้งลดลง ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน  เป็นธรรมและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
การเมืองมีธรรมาภิบาล  โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน
ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการดูแล ใช้สอยอย่างรู้คุณค่า
ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี  มีความมั่นคงและมีความสุข
ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขัน สร้างนวัตกรรม ทันโลก
สร้างภูมิคุ้มกันสังคม รับมือวิกฤตได้ด้วยสติและปัญญา
การลงทุนในคุณธรรมและปัญญา ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน และอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด