วันที่ 1 มิ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท-คุยการเมือง" ระบุว่า...
ภท. จะยอมให้ พท. ยึด มท.หรือ?
ถ้าใครติดตามข่าวการเมืองเรื่องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืน พบว่าก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย เคยโยนหินถามทาง กรณีต้องการจะยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทยมาโดยตลอด แต่มีการปฏิเสธจากแกนนำว่า ยังไม่มีแนวความคิดที่จะปรับเปลี่ยน หรือยึดกระทรวงมหาดไทยคืนมาเป็นของพรรคเพื่อไทยเลย
แต่ล่าสุดนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดถึงการยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย ว่าเพื่อต้องการนำกระทรวงมหาดไทยมาสร้างผลงานในเวลา2ปีที่เหลือให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะกระทรวงมหาดไทยภายใต้การกำกับของนายอนุทิน ชาญวีรกุลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังทำงานได้ไม่เต็มที่
หลังจากนายทักษิณได้ประกาศท่าทีจะยึดกระทรวงมหาดไทยกลับคืนมาแล้ว ได้มีลิ่วล้อของนายทักษิณออกมาขานรับ เรียกร้องให้รัฐมนตรีหรือพรรคการเมืองไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง หรือบุคคลที่มีความสามารถเข้าไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญได้ แม้แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากเคยยืนยันว่าไม่มีการปรับแบบแลกกระทรวงกัน แต่ล่าสุดกลับบอกว่า การปรับเปลี่ยนกระทรวงกัน ก็แล้วแต่โอกาส ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้พรรคภูมิใจไทย ที่เสียประโยชน์ เสียฟอร์ม จากการถูกยึดกระทรวงมหาดไทยคืน
นายอนุทิน ชาญวีรกุล เองก็หลีกเลี่ยงจะตอบคำถามของสื่อมวลชน เพราะไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับนายทักษิณโดยตรง จะมีแต่บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย เช่น นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บิดาของนายภราดร รองประธานสภาฯคนที่2 โพสต์ตั้งคำถาม “ทักษิณ” เขาคือใคร? มาขู่จะยึดมหาดไทยคืน อย่างนี้ก็ได้หรือ และยกพ.ร.ป.พรรคการเมือง เตือน เข้าข่ายครอบงำพรรคได้ หรือแม้การอภิปรายพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2569 ในสภาผู้แทนราษฎร ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ และนายไชยชนก ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย แสดงให้เห็นถึงความพอใจกับการยึดกระทรวงมหาดไทยเช่นกัน
กระแสข่าวล่าสุดระบุว่า พรรคเพื่อไทย เสนอ3กระทรวง คือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดีอี เพื่อแลกกับกระทรวงมหาดไทย ถ้าหากมีการแลกกันกระทรวงต่อกระทรวง ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียเปรียบ เหมือนกับการเอาแหวนเพชร ไปแลกกับแหวนทองเหลืองซึ่งไม่คุ้มค่า ไม่สมราคากัน เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยคงไม่พอใจ แต่ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา อาจเป็นเพราะความเกรงใจ หรืออาจเป็นเพราะกลัวไม่ได้ร่วมรัฐบาล
ถ้าหากจะยอมกันถึงขนาดนี้ ก็เสียศักดิ์ศรีพรรคภูมิใจไทยหมด รอดูว่าครูใหญ่บุรีรัมย์จะแก้เกมของนายใหญ่อย่างไรกัน