เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. 68 ที่ศูนย์เครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลหลังมีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นอย่างไร ทุกพรรคยังให้การสนับสนุนนายกฯ ต่อไปใช่หรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่นายกฯ จะประสานและพูดคุย เพราะนายกฯ เป็นทั้งหัวหน้าพรรค และผู้นำรัฐบาล สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาล ยังไม่ได้ลาออก หรือยังไม่ได้พ้นสภาพ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฉะนั้นที่ถามว่าจะตั้งใครขึ้นมาใหม่ยังไม่ใช่ ตอนนี้เป็นเพียงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่จะปรับเล็ก ปรับใหญ่อยู่ที่นายกฯ ยืนยันรัฐบาลยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยได้ออกไป พรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ยังดำเนินการอยู่ เป็นการปรับกำลังให้เหมาะสมเท่านั้น
เมื่อถามว่า สัญญาณที่นายภูมิธรรมได้รับทุกพรรคยังสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไปใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็เป็นอย่างนั้นครับ”
เมื่อถามว่า วันนี้ยังมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า “มั่นใจครับ” เมื่อถามอีกว่าจะมีใครเข้ามาเติมเสียงให้รัฐบาลอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวไปดูตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินเช่นนั้น ตนคิดว่าทุกอย่างจบแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งสัญญาณมายังพรรคเพื่อไทยหรือนายกฯแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวต้องถามนายกฯ เท่าที่ตนรับทราบมาไม่มีอะไรแล้ว จบแล้ว
เมื่อถามว่า มองท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นการต่อรองหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า มันเป็นข่าว แต่การประชุมของแต่ละพรรคก็เป็นสิทธิที่จะพิจารณา การประชุมของแต่ละพรรคไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็จะต้องคุยกันและเป็นสิทธิอันชอบธรรมของแต่ละพรรคที่จะสามารถพิจารณาอะไรก็ได้ เป็นปกติทางการเมืองมีอะไรปรับเปลี่ยนก็ต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีกระแสเรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร ลาออก รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนคิดว่าคนที่เกี่ยวข้องได้คุยกับนายกฯแล้วไม่มีปัญหาอะไรทุกคนเข้าใจ ทุกคนได้ฟังคลิปร่วมกันหมดแล้วและก็รู้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร มันเป็นชั้นเชิงต่อรองทางการทูต ซึ่งก็ต้องมีบุกมีถอย และถ้าดูจากคลิปไม่มีอะไรเลยเป็นเพียงการพูดคุย ยังไม่มีอะไรที่เข้าข่ายข้อหาและเป็นปัญหา
เป็นเพียงการพูดคุยและสุดท้ายได้มีการชี้แจงกองทัพ และวันนั้นที่บ้านพิษณุโลกก็มีการประชุมและมีการเล่าให้ฟังทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรเลย ส่วนที่บอกว่า มีความไม่พอใจตรงนั้นตรงนี้ ก็เป็นเรื่องที่ว่ากันไปเอง แม่ทัพภาคที่ 2 ตนได้คุยแล้วและต่อสายให้นายกฯได้คุยแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร สบายใจได้ ไม่ได้มีอะไร ท่านก็เข้าใจ หน้าที่และสิ่งสำคัญคือ นายกฯ รัฐบาล และกองทัพเห็นตรงกันว่าอธิปไตยของประเทศสำคัญที่สุด ได้คุยกันตรงนี้เรียบร้อยไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนที่ไม่พอใจเหตุการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิที่จะแสดงออกให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
เมื่อถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์ว่าการชุมนุมจะจุดติด จนบานปลายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเมินกันว่ารัฐบาลยังทำหน้าที่ต่อได้ ด้วยความมั่นคงของประเทศตอนนี้ ทุกคนประเมินว่าเป็นภัยจากความมั่นคงคุกคามจากนอกประเทศ เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญตรงนั้น และตนคิดว่าเดี๋ยวรอให้ได้พิจารณาทุกวัน ข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน ความไม่พอใจในประเทศมีโอกาสลดลงได้ เพราะถ้าดูจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่มีการพูดกัน ถ้านายกฯมีคำไหนข้อไหนหยิบออกมาพูด แล้วไม่พอใจก็เอาไปฟ้องได้ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ในฐานะดูแลความมั่นคงจะทำอย่างไร ในการเรียกความเชื่อมั่นนายกฯ จากประชาชนให้กลับมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า คิดว่าเวลาที่ผ่านไปช่วงนี้และสิ่งที่เรากำลังทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า นายกฯ ยังคงมีความตั้งใจทำงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตีความที่ต่างกันไปหรือเข้าใจผิดมันก็เป็นช่วงหนึ่ง แต่หากใช้สติดีๆแล้วอันนี้เป็นเรื่องภายนอกที่พยายามให้ภายในอ่อนแอ และถ้าภายในอ่อนแอรัฐบาลไม่มั่นคงมันก็จะมีผลเสียหายต่อประโยชน์ประเทศ ถ้าเข้าใจตรงนี้จะรู้ว่าเรื่องในประเทศไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่เป็นเรื่องตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ เรื่องข้างนอกประเทศสำคัญกว่า
เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน จะถูกรัฐบาลพิจารณาขึ้นบัญชีดำในการคบแบบมิตรที่ดีต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว เรายึดมั่นในหลักการสากลตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร