รวบผู้ต้องหาหญิงคดีค้ามนุษย์ ส่งตัวจากบาห์เรนกลับไทย หลังร่วมขบวนการบังคับค้าประเวณีต่างประเทศ

วันที่  29 พฤษภาคม 2568 ที่บก.ตม.2 ภายใต้ข้อกำชับสั่งการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ให้ตรวจสอบจับกุมบุคคลตามหมายจับทั้งเป็นที่ต้องการตัวของทางการไทยและต่างประเทศ รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (กก.สส.ปป.บก.ตม.2) เข้าควบคุมตัว นางสาวไอชลิยา อายุ 57 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา 2 ฉบับ ในข้อหาค้ามนุษย์ ร่วมกับขบวนการลวงหญิงสาวไทยไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน โดยใช้วิธีการล่อลวง ข่มขู่ และควบคุมด้วยกำลัง

การจับกุมเกิดขึ้นภายหลังจากได้รับการประสานจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยอัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 3 ผู้ประสานงานหลัก ซึ่งดำเนินการรับตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศบาห์เรนตามคำร้องขอของไทย โดยผู้ต้องหาเดินทางมากับสายการบิน GULF AIR เที่ยวบิน GF152 จากกรุงมานามา ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 10.30 น.

พฤติการณ์การกระทำผิด นางสาวไอชลิยา ร่วมกับขบวนการอีกหลายราย กระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่าย โดยร่วมกันล่อลวงหญิงไทยหลากหลายรายในช่วงปี 2559–2560 ไปยังประเทศบาห์เรน โดยอ้างว่าไปทำงานถูกกฎหมาย เช่น พนักงานบริการ หรือร้านนวด แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทาง และถูกบังคับให้ค้าประเวณีภายในสถานบริการในเมืองมานามา ประเทศบาห์เรน

ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อขัดขืนจะถูกควบคุมตัว ข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย มีการตัดการสื่อสารกับครอบครัวในไทย และถูกบังคับให้ให้บริการลูกค้าหลายรายต่อวัน โดยรายได้ทั้งหมดถูกยึดไว้โดยขบวนการ ซึ่งมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายระดับ ทั้งนายหน้าในไทย ผู้จัดส่ง และผู้ควบคุมในต่างประเทศ

หมายจับศาลอาญาที่ออกต่อผู้ต้องหาระบุข้อหา ได้แก่
 • สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อค้ามนุษย์
 • ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี
 • ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการค้าประเวณีโดยใช้วิธีหลอกลวง ข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย
 • ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง และใช้วิธีการปิดกั้นการหลบหนีของเหยื่อ

การจับกุมครั้งนี้นับเป็นผลสำเร็จของการประสานงานระหว่างหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และตำรวจสากลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ซึ่งได้อนุมัติให้ส่งตัวผู้ต้องหากลับมายังประเทศไทย

ภายหลังการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และส่งมอบผู้ต้องหาให้กับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป