วันที่ 21 พ.ค.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า...
อาการน่าเป็นห่วง
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งชัดเจนแล้วว่า
1 ศาลมีอำนาจไต่สวนได้เอง
2 ศาลมีอำนาจที่จะมีคำสั่งได้ตามที่เห็นสมควร
แล้วท่านนายกสมาคมทนายความ จะไปตัดสินแทนศาลได้หรือ และมีอำนาจห้ามศาลหรือ จึงไปตัดสินใจเองล่วงหน้าว่า ศาลไม่มีอำนาจสั่งใดๆ
แบบนี้ใครเป็นลูกค้าลูกความก็คงตกใจ จะเสียทางทำมาหากินนะครับ
ผมแนะนำให้ไปดูพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งบัญญัติชัดเจนว่าในการบังคับโทษ ตามคำพิพากษาของศาล ให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ดังนั้นศาลจึงไม่มีวันยอมรับ การปฏิบัติตามกฎหมายราชฑันฑ์มาลบล้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเด็ดขาด
และให้ไปดูตัวอย่างคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ศาลไต่สวนแล้ว พบว่า ในขณะออกหมายปล่อยจากเรือนจำยังจำคุกขาดไปอีก 15 วัน ศาลจึงออกหมายจำคุกใหม่อีก 15 วันได้
ศึกษาดูให้มากๆหน่อยครับ
โดยก่อนหน้านี้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า กรณี นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือน ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ โดยไม่ต้องขออนุญาตศาล หากผลการไต่สวนของศาลมีความเห็นตามแพทยสภาว่า อาการเจ็บป่วยของอดีตนายกไม่ได้วิกฤต ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปดำเนินคดีกับผู้บัญชาการเรือนจำซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจจัดการให้เป็นไปตามหมายจำคุกเป็นคดีใหม่ แต่ศาลไม่มีอำนาจออกหมายจำคุกซ้ำ หรือมีคำสั่งให้นำอดีตนายกไปจำคุกใหม่