คดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 รายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 โดย 2 รายถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และอีก 1 รายถูกตักเตือน   อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันคือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภา  

บทบาทของรัฐมนตรีสาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษ

ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มติของแพทยสภาที่เกี่ยวข้องกับการลงโทษทางจริยธรรมต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน หากรัฐมนตรีมีความเห็นแย้ง มติดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังแพทยสภาเพื่อพิจารณาใหม่ โดยต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมดในการยืนยันมติเดิม  

แรงกดดันและการจับตาจากสังคม

การตัดสินใจของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะสภานายกพิเศษ กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสังคมและสื่อมวลชน เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมและจริยธรรมทางการแพทย์   หากรัฐมนตรีเห็นชอบกับมติของแพทยสภา จะเป็นการส่งสัญญาณถึงความโปร่งใสและความยุติธรรมในกระบวนการดังกล่าว  แต่หากมีการแย้งหรือปรับลดโทษ อาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงหรือมีแรงจูงใจทางการเมือง 

ผลกระทบต่อคดีและการเมืองไทย

การตัดสินใจของสภานายกพิเศษไม่เพียงแต่มีผลต่อคดีของนายทักษิณเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบยุติธรรมของประเทศ  การดำเนินการที่โปร่งใสและยุติธรรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของสังคมและป้องกันวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น 
            
และบทบาทของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสภานายกพิเศษของแพทยสภา มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร การตัดสินใจของเขาจะเป็นตัวชี้วัดถึงความยุติธรรมและความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมไทยในสายตาของประชาชนและนานาชาติ 
             
สำหรับนายสมศักดิ์นั้น เข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกในปี 2531 กับ พรรคสามัคคีธรรม และเส้นทางการเมืองของเขานับแต่นั้น ไม่เคยหยุดนิ่ง โดยเปลี่ยนผ่านหลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไทยรักไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และล่าสุดคือ พรรคเพื่อไทย ที่เขาร่วมรัฐบาลในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร”

30 ปีบนเก้าอี้รัฐมนตรี – ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน

ชื่อของนายสมศักดิ์ผูกพันกับ “ฝั่งรัฐบาล” มาโดยตลอด เขาเคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลากหลาย อาทิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รัฐบาลพลเอกประยุทธ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รัฐบาลแพทองธาร – ปัจจุบัน)

แนวทางการเมืองของเขาชัดเจนว่า “ไม่เลือกข้าง” แต่เลือกอยู่ฝั่งที่สามารถผลักดันงานบริหารได้ ซึ่งทำให้เขาถูกเรียกขานว่าเป็น “รัฐมนตรีสายปรับตัว”, “นักเจรจาแห่งพรรคใดก็ได้” และ “เจ้าพ่อสายกลาง” แห่งภาคเหนือตอนล่าง
          
แม้จะถูกวิจารณ์ในบางช่วงว่าเป็น “นักการเมืองไร้อุดมการณ์” แต่ในทางกลับกันนายสมศักดิ์ คือภาพแทนของนักการเมืองไทยที่ปรับตัวสูง และเชี่ยวชาญในการรักษาอิทธิพลของตนเองในทุกสมัยรัฐบาล ไม่ว่าฝ่ายไหนจะขึ้นมาเป็นแกนนำ เพราะเครือข่ายทางการเมืองระดับจังหวัดของเขาในสุโขทัยยังคงแน่นแฟ้น และมีผลต่อการจัดสรรตำแหน่งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

 

#คดีชั้น14 #ทักษิณชินวัตร #ป่วยทิพย์ #โรงพยาบาลตำรวจ #สมศักดิ์เทพสุทิน #กระทรวงสาธารณสุข #แพทยสภา #สภานายกพิเศษ #หมอทักษิณ #จริยธรรมแพทย์ #ข่าวการเมืองวันนี้ #เสถียรภาพรัฐบาล #มาตรฐานยุติธรรม #การเมืองไทย2568 #เพื่อไทย #จับตาทักษิณ