วันที่ 2 พ.ค.68. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยถึง ภารกิจและพันธกิจของ “ธนาคารที่ดิน” มุ่งทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้บริหารจัดการที่ดินด้วยกระบวนการที่แตกต่างจากหน่วยงานรัฐอื่น ไม่เปิดช่องให้ขายสิทธิ์หรือซื้อขายเปลี่ยนมือ ปิดโอกาสที่ดินตกไปอยู่ในมือนายทุน หรือทุนข้ามชาติ เป็นการรักษาทรัพยากรประเทศ ช่วยประชาชนมีอาชีพ พ้นความยากจนได้อย่างยั่งยืนธนาคารที่ดิน ทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ  กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยของเราโดยส่วนมาก อยู่ในระดับที่ต้องได้รับการสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้คําแนะนํา 
รวมทั้งให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะช่วยทํามาหากิน โดยเฉพาะในส่วนของที่ดินทํากิน ดังนั้น สถาบันบริหาร จัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ “ธนาคารที่ดิน” เป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐ มีภารกิจให้การสนับสนุนประชาชน ชาวบ้านทั่วไปทั้งหมดที่ไม่มีรายได้ หรือว่ามีรายได้ค่อนข้างที่จะต่ำ “ธนาคารที่ดิน” ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามพันธกิจ และภารกิจ มาตั้งแต่ปี 2563 โดยที่ทํามา 12 พื้นที่ และกำลังขยายเป็น 42 พื้นที่ทั่วประเทศ ภายในปีงบประมาณ 2568 เพื่อต้องการที่จะให้ประชาชนสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เราไม่ต้องการที่จะทำในลักษณะเอาปลาไปให้ เพราะการทำเช่นนั้น เท่ากับว่าเมื่ประชาชนได้ที่ดินไปแล้ว ทําอะไรในพื้นที่ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร แต่ “ธนาคารที่ดิน” เราให้เครื่องมือหาปลา เราทำเช่นนี้เพราะต้องการที่จะช่วยให้ประชาชนให้สามารถดำรงชีพได้ และยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง“เครื่องมือหาปลา” ที่เรานำไปให้ประชาชน มีอะไรบ้าง เราฝึกอาชีพต่าง ๆ ให้ โดยเฉพาะการทำเกษตรกรรม การปศุสัตว์ และการประมง เพราะอาชีพ คือสิ่งที่จะช่วยประชาชนเอาตัวรอดได้เร็วที่สุด อย่างน้อยคือช่วยลดรายจ่ายภายในครอบครัว การลดรายจ่าย ก็คือการเพิ่มรายได้ไปในตัวของมันเอง พอประชาชนช่วยตัวเองได้ โดยที่ใช้หลักพอมีพอกินหรือเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเท่ากับว่าประชาชน สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองสิ่งที่เราให้การสนับสนุนในลำดับต่อมา ก็คือการเพาะปลูก โดพเฉพาะ “พืชเศรษฐกิจ” เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่า นอกจากนั้นเรายังหาตลาดให้ เพื่อกระจายผลผลิต ไปสู่ผู้บริโภค กระจายสินค้าไปสู่ตลาด ทั้งระดับชุมชน จังหวัด ภาค กระทั่งถึงระดับประเทศ หมายความว่าประชาชน ในพื้นที่โครงการของ “ธนาคารที่ดิน” จะมีรายได้กลับคืนมา เพื่อจ่ายค่าเช่าซื้อที่ดินจากเรา ตรงนี้ก็จะครบวงจรที่ว่า “ธนาคารที่ดิน ทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้“ธนาคารที่ดิน” เรามีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทําทุกวิธีการเพื่อให้ประชาชนคนไทย มีที่ดินทํากิน มีกินแล้วก็สามารถที่จะมีรายได้ ไปใช้จ่ายในครัวเรือนแบบครบวงจร ตรงนี้เราต้องการที่จะให้ประชาชนทั่วไปที่มาร่วมกับเรา ให้มีความเข้มแข็งด้านอาชีพ มีชีวิตที่มั่นคงได้อย่างแท้จริง ธนาคารที่ดิน แตกต่างจากหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่จัดการด้านที่ดินให้ประชาชนเหมือนกัน

สิ่งที่ ”ธนาคารที่ดิน” ดําเนินการโดยเฉพาะโครงการกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน ก็คือ เราทําให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของที่ดินจริง ๆ เพราะประชาชน ต้องผ่อนชําระค่าเช่าซื้อที่ดินกับเราเป็นเวลา 30 ปีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ย่อมแสดงว่าเขาไม่รู้สึกว่าเป็นของฟรี เพราะหากประชาชนคิดว่าได้มาฟรี ๆ แล้ว ก็จะเกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือ เปลี่ยนสิทธิ์กันโดยง่าย เหมือนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้
ตรงนี้เราต้องการที่จะให้ประชาชน เข้ามาร่วมในลักษณะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในที่ดินที่ทํากินอยู่ นั่นคือปลูกฝังให้เกิดความรักและหวงแหนในที่ดินของเขา เพราะฉะนั้น การที่จะมาอยู่ในพื้นที่ “ธนาคารที่ดิน“ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ในระยะ 30 ปี ที่ดินยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา การที่เราจัดหาที่ดินให้ประชาชนเช่าซื้อ ประชาชนต้องรวมกลุ่มกันเป็นลักษณะของวิสาหกิจชุมชน อาจจะ 7 คน 10 คน หรือมากกว่านั้น มีการแบ่งความรับผิดชอบ ใครจะเป็นหัวหน้า หรือประธานกลุ่ม ใครจะช่วยเหลือกลุ่มในด้านอะไร อยู่ที่ประชาชนตกลงกันเองทั้งหมด เพราะฉะนั้น เมื่อประชาชน เกิดความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งต้องรับผิดชอบ จะต้องดูแลที่ดินของตัวเองอย่างดี ขณะเดียวกันเราก็คงไม่ปล่อยให้ประชาชน ทําโดยไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ ตรงนี้เราก็พยายามที่จะให้การสนับสนุนเรื่องของความรู้ การพัฒนาที่ดินการหาพืชที่เป็นประโยชน์ตามความเหมาะสมของภูมิภาค นั้น ๆ มาให้ ขณะเดียวกันก็ให้คําแนะนํา และรวมทั้งการหาตลาดให้ เพราะฉะนั้นตรงนี้มันจะครบวงจร ตอนนี้คนที่มาอยู่ในโครงการของเรา มีประมาณเกือบ 30 กว่าโครงการ/พื้นที่ทั่วประเทศ และจะขยายเป็น 42 โครงการ/พื้นที่ ในลำดับต่อไป ตรงนี้ทําให้ประชาชนสามารถยืนหยัดอยู่ได้ คำว่า เราหาพืชเศรษฐกิจมาให้ รวมถึงหาสิ่งดี ๆ แล้วก็สิ่งใหม่ ๆ หรือว่า นำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาให้โดยเฉพาะยุคนี้มีเรื่องของการนำ AI มาใช้ในเรื่องการเกษตร รวมทั้งการนําระบบการขนส่งที่ทันสมัย มาสนุนให้การขนส่งผลผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือตลาด

ดังนั้น เมื่อประชาชน สามารถยืนอยู่ได้ มีรายได้ ก็จะมีความรัก ความหวงแหนในพื้นที่ เป็นเครื่องยืนยันว่า “ธนาคารที่ดิน” ทําโครงการได้ครบถ้วน ส่งเสริมประชาชน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ธนาคารที่ดิน ให้ประชาชน รักษาสิทธิในที่ดิน ไม่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือจนที่ดินตกไปอยู่ในมือนายทุน หรือทุนต่างชาติ อันส่งผลให้ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ ถูกทําลายโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน เป็นโครงการที่เปิดให้ประชาชน รวมกลุ่มสมาชิกเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ แล้วร้องขอให้ธนาคารที่ดิน ช่วยเหลือจัดสรรที่ดิน และมาทำสัญญาเช่าซื้อในโครงการฯ ระยะเวลา 30 ปี เช่าซื้อในรูปแบบแปลงรวม "อยากจะเป็นขวัญกําลังใจ ให้กับทุกคนที่กําลังทํางานอยู่ในพื้นที่ในแต่ละโครงการ ขอให้ท่านมีกําลังใจจะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ สามารถที่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วก็ขอให้ท่า นเชื่อมั่นว่าในการดําเนินงานของธนาคารที่ดิน เราทําเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง และแท้จริง