อ.ต.ก.พาเหรดสินค้าเกษตรคุณภาพสูง ของดี ของอร่อย ชวนมาชิมช็อปชม ในงาน "ปักหมุดผลไม้ของดีถิ่นอีสาน" ระหว่างวันที่ 2-8 พ.ค. 2568 ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี
นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาด ซึ่งในปีนี้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จึงได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทย โดยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างช่องทางการจำหน่ายผลไม้ และช่วยกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตออกมากในฤดูกาล ตลอดจนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตผลไม้ทั้งสดและแปรรูปของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายและแผนงานให้เป็นตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
นายปณิธาน กล่าวว่า ซึ่งในปีนี้ อ.ต.ก. จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทย นำร่องในพื้นที่ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ "ปักหมุดผลไม้ของดีถิ่นอีสาน" ภายใต้แนวคิด อ.ต.ก.แฟร์ 4 ภาค ระหว่างวันที่ 2-8 พ.ค. 2568 โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ รวมถึงสินค้า อัตลักษณ์ท้องถิ่น ของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้และผลิตสินค้าผลไม้แปรรูป รวมทั้งนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต รวมถึงสินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐานด้านการเกษตร ส่งเสริมกิจกรรมภาคการเกษตร ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ซึ่งจัดขึ้น ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพื้นที่จัดงานกว่า 5,000 ตารางเมตร มีบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรกว่า 50 บูธ ทั้งนี้ อ.ต.ก. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาร่วมสนับสนุนและสร้างโอกาสให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ในการนำผลผลิตผลไม้ทั้งสดและแปรรูปมาจัดแสดงและจำหน่ายในงานนี้ด้วย
“นอกจากนี้ อ.ต.ก. ยังจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทยในแต่ละภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยจะพิจารณาจากช่วงเวลาและปริมาณผลผลิตผลไม้เศรษฐกิจหลักของ ประเทศที่ออกมากในฤดูกาลของแต่ละภาค เพื่อเป็นแผนรองรับในการช่วยกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอก แหล่งผลิตในช่วงผลผลิตออกมากในฤดูกาลให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ซึ่งตนเชื่อว่างานนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริม เชื่อมโยงการตลาด โดยใช้กลไกการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สร้างโอกาสให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าเกษตร เชื่อมโยงภาคผลิตสู่การตลาดแบบครบวงจร ก่อให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่เกษตรกร” นายปณิธาน กล่าวว่าทิ้งท้าย