คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดกิจกรรมการบรรยายในรายวิชา CA 599 สัมมนานวัตกรรมการผลิตสื่อในยุคดิจิทัล ของระดับปริญญาโท ในหัวข้อมุมมองการเปลี่ยนผ่านของยุคสื่อจากออฟไลน์สู่โลกดิจิทัล ไม่ได้เปลี่ยนเพียงแค่รูปแบบการผลิตหรือแพลตฟอร์มที่ใช้เผยแพร่ แต่ยังเปลี่ยนวิธีคิด วิธีเล่าเรื่อง และวิธีสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างสิ้นเชิง เพื่อเตรียมนักศึกษานิเทศศาสตร์ให้พร้อมรับมือกับการผลิตสื่อในโลกใหม่โดยมี ดร.พันธกานต์ ทานนท์ รองคณบดีกลุ่มวิชาการสอง ในฐานะอาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นผู้ดำเนินการสอน โดยได้เชิญ คุณกตัญญู สว่างศรี หรือ Katanyutonight ผู้ผลิตรายการทอล์กโชว์ออนไลน์แนววาไรตี้ชื่อดัง และคุณเรวัต สังข์ช่วย Director of Digital Content จาก Amarin TV มาร่วมบรรยาย ณ ห้องเรียน 151 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ดร.พันธกานต์ ทานนท์ รองคณบดีกลุ่มวิชาการสอง ในฐานะอาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การบรรยายดังกล่าวได้เชิญวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อทั้งจากแพลตฟอร์มออนไลน์และสื่อกระแสหลักมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ โดยทั้งสองท่านได้นำเสนอแนวทางการผลิตสื่อในยุคที่เทคโนโลยีและผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดมุมมองเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้สื่อสามารถ “อยู่รอด” ได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์พร้อมรับมือกับการผลิตสื่อในโลกใหม่
โดยรายการ Katanyutonight เป็นวาไรตี้ทอล์กโชว์สไตล์ฝรั่งที่ออกอากาศบน YouTube โดยมีแรงบันดาลใจจากรายการระดับโลก เช่น The Tonight Show และ The Ellen Show รายการนี้มีจุดเด่นคือการเชิญแขกรับเชิญที่มีชื่อเสียงมาร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเองต่อหน้าผู้ชมในห้องส่ง ทำให้บรรยากาศของรายการเปี่ยมด้วยพลังและมีความ “สด” ที่เข้าถึงใจผู้ชมได้อย่างแท้จริง
“เวลาเราสร้างสิ่งใหม่ คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อเราหรอก” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเป็นจริงในโลกของผู้ผลิตสื่อหน้าใหม่ ที่ต้องใช้เวลา พลัง และความต่อเนื่องในการสร้าง “ความเชื่อใจ” ต่อผู้ชม แม้จะไม่ใช่รายการที่มีทุนสูงหรือมีทีมงานขนาดใหญ่ แต่ Katanyutonight เลือกใช้กลยุทธ์ “ตัวตนของพิธีกร” เป็นจุดแข็งในการเชื่อมโยงกับผู้ชมตั้งแต่การเลือกแขกรับเชิญที่มีชื่อเสียงในช่วงแรก เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของรายการ ไปจนถึงการแสดงความจริงใจผ่านบทสนทนาและอารมณ์ขันของพิธีกรอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ความสัมพันธ์ทางใจ” (emotional connection) ที่ลึกซึ้งกับผู้ชม
ในเชิงเทคนิค รายการใช้ทั้ง Long-form Content และ Short-form Content ควบคู่กัน โดยเฉพาะคลิปสั้นที่ถูกตัดจากรายการหลักและนำไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม TikTok, Facebook และ Instagram เพื่อขยายฐานผู้ชม และเพิ่มการค้นพบเนื้อหา (discoverability) โดยเบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “ความเข้าใจแพลตฟอร์ม” และ “การบริหารทรัพยากร” อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้รายการสามารถแข่งขันได้ในโลกของสื่อดิจิทัลที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์มากมาย
นอกจากนี้ ดร.พันธกานต์ ยังระบุอีกว่า ในอีกมุมหนึ่งของสื่อกระแสหลัก คุณเรวัต สังข์ช่วย จาก Amarin TV ได้นำเสนอกรณีศึกษาการปรับตัวของช่องทีวีดิจิทัลภายใต้โลกที่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว โดยยอมรับว่า รายการข่าวของ Amarin TV ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าถึงอารมณ์ของผู้ชม โดยเฉพาะประเด็น “ข่าวสารชาวบ้าน” ที่มีความรุนแรงและดราม่า “ฝนจะตกหนักที่สุด ณ บ้านที่หลังคามีรูรั่ว” คำกล่าวนี้เป็นคำเตือนต่อคนทำสื่อที่ต้องรู้จักจุดอ่อนของตัวเองก่อนจะปรับตัวไม่ทัน Amarin TV จึงเลือกไม่หยุดอยู่แค่ “ข่าวดราม่า” แต่ปรับภาพลักษณ์รายการข่าวให้ดูทันสมัย น่าติดตาม และมีมิติยิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนาเทคนิคการนำเสนอ เช่น การใช้ CG แบบ Immersive การออกแบบฉากใหม่ การฝึกพิธีกรให้สามารถโต้ตอบกับฉากเสมือนจริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ทำให้ “ข่าว” กลายเป็นประสบการณ์รับชมที่ผสมผสานระหว่างเนื้อหาและเทคโนโลยีอย่างลงตัว
นอกจากนี้ คุณเรวัตยังได้แชร์ “วิสัยทัศน์ในอนาคต” ของช่อง Amarin ที่ต้องการพัฒนาเป็น Knowledge Media หรือสื่อที่ให้ความรู้ในหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้าน สุขภาพ หนังสือ อาหาร หรือการท่องเที่ยว โดยเน้นการออกแบบเนื้อหาให้ตอบโจทย์ “กลุ่มผู้ชมเฉพาะ” เช่น คนเมือง คนสูงวัย หรือคนรุ่นใหม่ที่ชอบคลิปสั้น กระชับ และเข้าใจง่าย
ทั้งนี้ ดร.พันธกานต์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงบทสรุป จากสื่อ “เพื่อออกอากาศ” สู่สื่อ “เพื่อเชื่อมโยง” ว่า บทเรียนจากทั้ง Katanyutonight และ Amarin TV สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การผลิตสื่อในยุคดิจิทัลไม่ใช่แค่การส่งสาร แต่คือการสร้าง “สายสัมพันธ์” กับผู้ชม ผ่านความจริงใจ ความคิดสร้างสรรค์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ทว่าในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว การตั้งคำถามว่า “เราจะอยู่รอดอย่างไร” ไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่ผู้ผลิตสื่อต้องถามตัวเองคือ “เราจะทำให้ผู้ชมอยากอยู่กับเราไปเรื่อย ๆ ได้อย่างไร?” และคำตอบ...อยู่ในความเข้าใจคนมากกว่าแค่เข้าใจเทคโนโลยี
ผู้สนใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถค้นหาได้ที่ www.dpu.ac.th/th/faculty-of-communication-arts