วันที่ 28 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.68 เวลา 22.00 น. ร.ต.ท.กฤษกร พู่พงษ์ไทย รอง สว. สอบสวน สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในซอยทางเข้าบ้านเลขที่ 2/15 ต.เขาตูม อ.ยะรัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังเกิดเหตุจึงได้ประสานกำลังในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ วฤทธิ์ เจ๊ะโด ผกก. ไปถึงรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รุ่นยาริส ทะเบียนสงขลา จอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านหลังดังกล่าว สภาพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามบริเวณประตูและกระจกด้านคนขับหลายแห่งจนทะลุเข้าภายในห้องโดยสาร โดยภายในรถพบผู้เสียชีวิตคาพวงมาลัยอยู่บนเบาะคนขับ ทราบชื่อ เสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อ นายอุสมา จิใจ อายุ 30 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเข้าบริเวณศีรษะและลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อ นายมูหำหมัดซอดิ เกะรา อายุ 32 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณขาซ้าย 1 นัด อาการปลอดภัย  ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนอาก้าตกเกลื่อนบนถนนกว่า 20 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่าทั้งสองเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ยะรัง ประจำอยู่ที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบลโสร่ง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยก่อนเกิดเหตุ ภรรยาของนายมูหำหมัดซอดิ ผู้บาดเจ็บได้โทรศัพท์แจ้งว่าลูกไม่สบายให้กลับบ้านเพื่อพาไปโรงพยาบาล  นายมูหำหมัดซอดิ เห็นว่า นายอุสมา ผู้ตายกำลังจะขับรถยนต์ออกไปข้างนอก นายมูหำหมัดซอดิ จึงขอช่วยผู้ตายขับไปส่งบ้าน จากนั้นทั้งสองจึงนั่งรถออกจากฐานซึ่งอยู่ห่างจากฐาน ประมาณ 200 เมตร และเมื่อขับมาถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเพราะว่าอาวุธสงครามดักซุ่มอยู่ในป่าหน้าบ้าน คนร้ายจึงถือโอกาสที่ทั้งสองเผลอก่อนจะเดินออกมาจากป่าแล้วใช้อาวุธสงครามถล่มยิงทันที ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ อส. ซึ่งอยู่ภายในฐานได้ยินเสียงปืนจึงได้วิ่งออกมาช่วยเหลือพร้อมได้ยิงตอบโต้จนคนร้าย ล่าถอยหนีเข้าไปในป่า เมื่อตรวจสอบภายในลบพบว่า นายอุสมาเสียชีวิตคาพวงมาลัย ส่วนนายมูหำหมัดซอดิ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ซอยจุดเหตุเกิดตรวจสอบพบว่าเป็นซอยตัน และข้างหน้าเป็นภูเขาสูง โดยเชื่อว่าคนร้ายจำนวนหลายคนอาจจะเดินเท้าลงจากภูเขา เนื่องจากผู้สื่อข่าวได้ตรวจทางเข้าซอยแต่ไม่พบกับร่องรอยล้อของรถ จยย. เข้าไป โดยทั้งหมดอาจจะเดินลงจากภูเขาและทำการซุ่มดักรอในป่า ตรงบริเวณหน้าบ้านของ อส.อ.หมัดซอดิก (ผู้บาดเจ็บ) ก่อนทำการลงมือก่อเหตุ 

จากนั้นเวลา 9.30 น วันนี้ (28 เม.ย.) กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หละกฐานเข้าไปเก็บวัตถุและพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภาพกล้องวงจรปิด และปลอกกระสุนปืน เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝงเพื่อไล่ล่าหาคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ วฤทธิ์ เจ๊ะโด ผกก., พ.อ.อุเทน จีนทองหลาง ผบ.ทพ.20 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สุทธิกำลังร่วมเข้าปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พร้อมทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายโดยเฉพาะบริเวณป่าเนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายที่หลบหนีน่าจะมีความชำนาญพื้นที่โดยใช้ป่าทำการหลบซ่อนตัวหรืออาจจะมีแนวร่วมในพื้นที่ให้การช่วยเหลือ และให้ทุกหน่วยระมัดระวังตัวเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธสงคราม นอกจากนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะปลอกกระสุน ในที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ตรงกับคดีใดบ้างและอาจจะเชื่องโยงไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุ สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนและเลือกเป้าหมาย ทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลอบทำลายเจ้าหน้าที่รวมไปถึงการลอบระเบิด และโจมตีทางปฏิบัติการ ซึ่งทางหน่วยความมั่นคงได้มีการวางกำลังอย่างเข้มงวด

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ พยายามแสดงศักยภาพเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่