“สมศักดิ์” ร่วมเป็นสักขีพยาน การเคหะแห่งชาติ-สปสช. ลงนามเอ็มโอยู ขยายตู้ห่วงใย เข้าไปในพื้นที่การเคหะ หวังให้ประชาชนหาหมอผ่านเทเลเมดิซีน ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ย้ำ ปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ ปัดไม่รู้ แลก มท.-สธ.
วันที่ 21 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างการเคหะแห่งชาติ และ สปสช. โครงการ “เพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุข และนวัตกรรมบริการ“สำหรับประชาชนภายใต้ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในโครงการที่พักอาศัยภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะแห่งชาติ โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมลงนาม ที่ ศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริหารงานขาย (NHA INNOVATION CENTER) เคหะชุมชนห้วยขวาง
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดี ที่ได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างการเคหะแห่งชาติ และ สปสช. ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ในการยกระดับบริการสาธารณสุขของประเทศ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ 30 บาทรักษาทุกที่ โดยตนเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้พี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในการเคหะ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ที่มีมาตรฐาน ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียม
“ตู้ห่วงใย เป็นตัวอย่างนวัตกรรมบริการ ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุข ของพี่น้องประชาชน ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล ซึ่งได้ติดตั้งที่ชุมชนการเคหะห้วยขวางแห่งนี้ไปแล้ว และจะขยายไปยังชุมชนการเคหะทั่วประเทศในระยะต่อไป นอกจากตู้ห่วงใยแล้ว ความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุม นวัตกรรมบริการสาธารณสุขเชิงรุกอื่นๆ ด้วย เช่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ บริการเจาะเลือด ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เป็นต้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอขอบคุณ ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การเคหะแห่งชาติ และ สปสช. ที่ช่วยกันยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพในชุมชน สร้างรูปแบบบริการที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของประชาชน ด้วยแนวทาง 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้เกิดระบบสุขภาพที่ยั่งยืน เป็นธรรม และเข้าถึงได้สำหรับคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ เป็นการลงนามเรื่องนวัตกรรมเทเลเมดิซีน หรือ ตู้ห่วงใย ที่จะให้บริการประชาชน โดยกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และ สปสช. ได้ร่วมกันขยายเข้าไปในพื้นที่การเคหะฯ ซึ่งเป้าหมายเราต้องการตู้ห่วงใย กระจายไปทั่วประเทศ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล
เมื่อถามว่า งบบำรุงของโรงพยาบาลติดลบ จากโครงการบัตรทอง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องงบ อย่าเพิ่งไปสนใจอะไรมาก ซึ่งถ้าอยากรู้ตรงไหน จะให้เจ้าหน้าที่โดยตรงชี้แจง เพราะเรื่องงบประมาณ ไม่ได้ขาดแคลน
เมื่อถามถึงนิด้าโพล เผยคนส่วนใหญ่อยากให้ปรับคณะรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ส่วนโพลก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ที่สามารถทำได้ ก็แล้วแต่ความคิดเห็นของประชาชน
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย จะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับมา แล้วแลกกับกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้ อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งคนที่เป็นรัฐมนตรี จะไปรู้ เป็นไปไม่ได้