วันที่ 10 เม.ย.68 บช.ที่ ภ.1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์
รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผบก.สส.ภ.9 และ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้สั่งการบูรณาการการทำงาน โดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.สมพงศ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9, กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สงขลา, ฝ่ายสืบสวน กก.6 บก.ป., ฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด และ ฝ่ายสืบสวน สภ.หาดใหญ่
จับกุมนายอาหวู่พะ สินเกา หรือนายอนุชา แซ่โหยว หรือนายลี บุน ลง อายุ 62 ปี สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.269/2568 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568 พร้อมด้วยของกลาง1.สร้อยคอทองคำ จำนวน 38 เส้น 2.สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 31 เส้น3.ตะขอสร้อย จำนวน 5 อัน4.อาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยีห้อ ซิกซาวเออร์ หมายเลขทะเบียนลบเลือน จำนวน 1 กระบอก 5.แมกกาซีนปืน จำนวน 2 อัน6.กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด7.ซองหนังพกในสีดำ 1 อัน 8.กระเป๋าสะพาย แบบผ้าสีดำ มีตราอดิดาส ขนาด 30x19 ซม. จำนวน 1 ใบ 9.เป้สะพายสีดำมีตราไนกี้ จำนวน 1 ใบ10.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป้ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด จำนวน 1 อัน
โดยกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และทำด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
พล.ต.อ.ธนายุตม์ กล่าวถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า เมื่อ 8 เม.ย.68 เวลาประมาณ 11.52 น. มีคนร้ายจำนวน 1 คน เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่ห้างทองไทยอุดม 2 โดยคนร้ายแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ต แขนสั้นสีฟ้า-น้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีเทา สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงินรองเท้าผ้าใบสีขาว-ฟ้า-ชมพู เข้าไปภายในร้าน แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดัง” พร้อมกับเปิดชายเสื้อแสดงให้เห็นอาวุธปืนจากนั้นจึงได้ทำการเข้าไปชิงเอาสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำที่อยู่ภายในร้านไปจำนวน 69 เส้น น้ำหนัก รวม138 บาท มูลค่าประมาณ 6.9 ล้านบาทเศษ แล้วได้ขับขี่ รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.อ.ธนายุตม์ กล่าวอีกว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรณจ์สะเทือนขวัญ และคดีเป็นที่สนใจของประชาชน เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลากลางวัน ในชุมชน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เข้าควบคุมสั่งการการสืบสวนสอบสวน
ด้วยตนเองในทันที ร่วมกับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดได้ในเวลาอันรวดเร็วเพียง 5 ชม. และขออนุมัติหมายจับต่อศาลได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชม.
ต่อมาวันรุ่งขึ้น(9 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าคนร้ายหลบหนีมายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้บูรณาการการทำงานจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ไป ได้บริเวณสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ดำเนินคดีตามกฎหมาย