วันที่ 3 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการ

โดยนายธีระชัย กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีแผนในการเตรียมรับมือการประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เหตุการณ์ของโลกกำลังจะกระทบเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม การตั้งอัตราภาษีนำเข้า 36% ได้คำนึงถึงการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และการกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนกว่าปกติ เพื่อช่วยส่งออกด้วย เมื่อบวกกับภาษีฐานอีก 10% จะเป็น 46% เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลจำเป็นต้องวางแผน รัฐบาลจึงต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และต้องแถลงว่าประชาชนจะรับมืออย่างไร

“ พรรคได้เตือนให้รัฐบาลให้เตรียมพร้อมล่วงหน้ามานาน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า ผมแนะนำให้รัฐบาลเร่งสอบถามสหรัฐฯเราเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯไม่สูงเท่าไหร่ แต่สหรัฐฯอ้างว่าไทยเก็บถึง 72% ซึ่งมาจากมาตรการการกีดกันที่ถือว่าประเทศไทยมี และจากการที่เขาประเมินว่า เรามีการบริหารค่าเงินบาท เพื่อช่วยในการส่งออก เราต้องเข้าไปชี้แจงและทำความเข้าใจว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการ" นายธีระชัย กล่าว

ด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า แผ่นดินไหวจะกระทบเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด 1.กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ 2.จะทำให้มูลค่าคอนโดที่เป็นหลักประกันสินเชื่อลดลง และ3.ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่สร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย และระบบการเตือนภัยที่ครอบคลุมทั้งคนไทย และต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยว ย่อมจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ คุณจะใช้ซิมการ์ดของไทยหรือต่างชาติ ก็จะได้รับการแจ้งเตือน พร้อม ๆ กันทุกคนในวินาทีก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่ประเทศไทยใช้งบประมาณไปกว่า 1.7 พันล้านบาท เพื่อให้ส่ง SMS แจ้งเตือน แต่ 1 ชั่วโมง ส่งได้ไม่ถึง 200,000 คน

“ตั้งแต่ปี 66 รัฐบาลไม่ได้อะไรเลย เป็นระบบที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องคนไทย และวันนี้ก็ยังมีการตื่นตระหนกอยู่ บางสถานที่ก็ยังมีการอพยพอยู่ เพราะความเชื่อมั่นมันไม่เกิด นักท่องเที่ยวก็อาจจะมีความกังวลใจ และอาจทำให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศด้วย และขอเตือนให้กระทรวงการคลังเฝ้าระวังเป็นพิเศษเรื่องความเสี่ยงเรื่องหุ้นกู้บริษัทอสังหาฯ ที่อาจประสบปัญหากระแสเงินสดติดขัดฉับพลันได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นปัญหาลูกโซ่” ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว