”ภูมิธรรม“ ส่ง 55 ทหารไทย ชุดกู้ภัย USAR บก.ทัพไทย พร้อม ชุดแพทย์ MERT ร่วมประชาคมโลก บินไป ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่เมียนมา จากเหตุแผ่นดินไหว ที่ เนปีดอว์ พร้อมดูแล คนไทยในเมียนมา ทอ.พร้อมจัด 3 เที่ยวบิน รองรับ
ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลจากกองทัพไทย ชุด USAR (Urban Search and Rescue ) เดินทางไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนประเทศเมียนมาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ทั้ง เมืองมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และย่างกุ้ง
โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พลเอก ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขาธิการมว. กลาโหม พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกลาโหม พลเอก อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร และ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ร่วมส่งการสนับสนุนภารกิจสำคัญในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจด้านมนุษยธรรมของประเทศไทย และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่มีมายาวนาน
ทั้งนี้ รัฐบาลไทย ได้มอบหมายให้ กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นหน่วยหลักในการจัดตั้ง “ชุดช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาในพื้นที่เมืองเนปิดอว์” ภายใต้การควบคุมและกำกับของสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหาร (สบก.ยก.ทหาร)ซึ่งได้วางแผนอย่างรัดกุมและครอบคลุมในทุกมิติของการช่วยเหลือ ตามหลักปฏิบัติด้าน Humanitarian Assistance and Disaster Relief (HADR)
สำหรับภารกิจนี้ ประกอบด้วย กำลังพลทั้งหมด 55 นาย แบ่งออกเป็น 8 ชุด ได้แก่ชุดควบคุม (5 นาย), ชุดงานด้านประชาสัมพันธ์ (4 นาย), ชุดค้นหาและกู้ภัยขั้นต้น (USAR) จากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (12 นาย), ชุดแพทย์ฉุกเฉิน (MERT) จากสำนักนายแพทย์ทหาร (18 นาย), ชุดประเมินความเสียหาย(4 นาย), ชุดสื่อสาร (4 นาย), ชุดขนส่งทางอากาศ (4 นาย), ชุดประสานงาน (4 นาย)โดยมีภารกิจหลัก คือ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนผู้ประสบภัยในประเทศเมียนมา และดูแลช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีภารกิจด้านการค้นหาและกู้ภัยทางการแพทย์ฉุกเฉิน การตั้งโรงพยาบาลสนามระดับเบื้องต้น การประเมินความเสียหาย และการสนับสนุนด้านการสื่อสาร
และข้อมูลข่าวสารกองทัพอากาศจัด 3 เที่ยวบิน ได้แก่
เที่ยวบินที่ 1 (30 มีนาคม 2568) จัดส่งกำลังพลจากกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-เนปิดอว์-กรุงเทพฯ
เที่ยวบินที่ 2 (2 เมษายน 2568) เดินทางเข้าสลับกำลัง
เที่ยวบินที่ 3 (5 เมษายน 2568) เดินทางกลับถิ่นฐาน
ในส่วนของการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เมื่อเดินทางถึงที่หมาย ชุด USAR จะปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยชุด MERT ให้การแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ และปรับเป็น Mobile Clinic ตามคำสั่ง ชุด RDANA จะประเมินความเสียหายเพื่อวางแผนการช่วยเหลือต่อระยะต่อไป ตลอดจนการประชุมร่วมกับศูนย์บัญชาการทางทหารผ่านระบบ VTC รายงานผลการปฏิบัติประจำวัน และรายงานพิเศษตามคำสั่ง รวมทั้งให้การช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่และดำเนินการส่งกลับโดยสมัครใจผ่านเที่ยวบินของกองทัพอากาศ และการดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับสาธารณชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุภารกิจ
การดำเนินภารกิจในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความจริงใจของประเทศไทยในการยืนหยัดเคียงข้างประชาชนเมียนมาในยามยากลำบาก พร้อมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของกองทัพไทยในบทบาทด้านความมั่นคงเชิงมนุษยธรรม สนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น อันจะนำไปสู่ความร่วมมือที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคต่อไป