หลายธุรกิจมักเลือกใช้กลยุทธ์ลดราคาเมื่อเจอปัญหายอดขายตก แต่วิธีนี้อาจนำไปสู่การขาดทุน และสงครามราคาที่ไม่จบสิ้น ทางออกที่ดีกว่าคือการทำโปรโมชันที่เพิ่มมูลค่าสินค้าโดยไม่ต้องลดราคา ซึ่งจะช่วยรักษากำไรไว้ได้ในระยะยาว แต่วิธีที่ว่านี้จะมีอะไรบ้าง วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากคนทำธุรกิจกัน
ทำไมธุรกิจถึงไม่ควรแข่งตัดราคากัน
การแข่งขันด้านราคาเป็นดาบสองคมที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว แม้จะดึงดูดลูกค้าได้ในระยะสั้น แต่ผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้ธุรกิจตกอยู่ในวงจรการขาดทุนที่แก้ไขได้ยาก เหตุผลสำคัญที่ธุรกิจควรหลีกเลี่ยงการแข่งขันตัดราคามี ดังนี้
- ความเสี่ยงต่อการขาดทุน : ธุรกิจที่มีเงินทุนน้อยอาจไม่สามารถแบกรับการขายสินค้าที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนได้นาน โดยเฉพาะหากต้องกู้เงินมาลงทุน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
- ไม่สร้างความภักดีต่อแบรนด์ : ลูกค้าที่ซื้อเพราะราคาถูกมักไม่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และพร้อมเปลี่ยนไปซื้อจากคู่แข่งทันทีที่พบราคาที่ถูกกว่า
- ลดคุณค่าของสินค้า : การลดราคาบ่อยครั้งอาจทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าสินค้ามีคุณค่าต่ำ และไม่ยอมจ่ายในราคาปกติในอนาคต
- ไม่ยั่งยืนในระยะยาว : เมื่อเริ่มลดราคาแล้ว อาจเกิดสงครามราคาที่ทุกฝ่ายต้องลดราคาต่ำลงเรื่อยๆ จนไม่มีใครได้กำไร
5 เคล็ดลับทำโปรโมชันแบบไม่ลดราคา ปิดจบปัญหาขายขาดทุน
เมื่อธุรกิจต้องการกระตุ้นยอดขายโดยไม่ต้องลดราคา มีกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า และที่สำคัญคือรักษาระดับกำไรของธุรกิจไว้ได้ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง
1. ทำระบบสะสมแต้มเพื่อแลกรับของรางวัล
การสร้างโปรแกรมสมาชิกที่ให้ลูกค้าสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำและเพิ่มความถี่ในการซื้อ ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับสิทธิพิเศษและมูลค่าเพิ่มจากการซื้อสินค้าในราคาปกติ โดยสามารถนำแต้มมาแลกเป็นส่วนลดหรือของรางวัลในอนาคต
2. สร้างความมั่นใจด้วยนโยบาย "รับคืนสินค้า"
การรับประกันความพึงพอใจด้วยนโยบายรับคืนสินค้า เป็นการลดความเสี่ยงในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ผู้บริโภคจะรู้สึกมั่นใจว่าการลงทุนซื้อสินค้าไม่เสี่ยงเพราะหากไม่พอใจสามารถคืนได้ นโยบายนี้แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่วยเพิ่มยอดขายโดยไม่ต้องลดราคา
3. ใช้การ Upsell แทนการลดราคา
เทคนิค Upsell เป็นการเสนอสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่าหรือเพิ่มขนาดโดยเพิ่มราคาเพียงเล็กน้อย เช่น "เพิ่มเงินเพียง 20 บาทเพื่อรับสินค้าขนาดใหญ่กว่า" วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า และในขณะเดียวกันก็เพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้ง ทำให้ธุรกิจได้กำไรมากขึ้น
4. ทำโปรโมชัน "ส่งฟรี" แบบไม่ลดราคา
การเสนอจัดส่งฟรีเมื่อซื้อครบตามยอดที่กำหนด เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่มเพื่อให้ถึงเกณฑ์ เช่น "ซื้อครบ 500 บาท ส่งฟรีทั่วประเทศ" ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับประโยชน์เพิ่ม โดยที่ธุรกิจไม่ต้องลดราคาสินค้า เป็นการเพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. สร้างแคมเปญหรือกิจกรรมแจกของรางวัล
การจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การแข่งขัน การชิงโชค หรือแคมเปญส่งเสริมการขายที่มอบประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า ช่วยสร้างความสนใจและการมีส่วนร่วม ธุรกิจจะได้ประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นยอดขายโดยไม่ต้องลดราคาสินค้า
และทั้งหมดนี้ ก็เคล็ดลับที่ดีในการทำโปรโมชัน หรือสร้างยอดขายให้ธุรกิจเติบโตได้โดยที่ไม่ต้องลดราคาขาดทุน ซึ่งนอกจากวิธีดี ๆ เหล่านี้แล้ว การแจ้งข่าวสารให้กับลูกค้าเมื่อทำโปรโมชัน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ธุรกิจใส่ใจ แต่หากคุณไม่มีเวลาบริหารจัดการเอง การใช้บริการ SMS Marketing จาก deeSMSX ที่มีระบบส่งข้อความที่เสถียร รวดเร็ว และรองรับการส่งข้อความเป็นจำนวนมาก ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณได้เช่นกัน ในราคาเริ่มต้นที่ 0.15 บาท / ข้อความ เท่านั้น!