วันที่ 8 มีนาคม 2568  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งหนังสือถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พรรคฝ่ายค้านพิจารณานำชื่อของ “บุคคลภายนอก” (นายทักษิณ ชินวัตร) ออกจากเนื้อหาของญัตติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยอ้างถึงข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อ 176

นายพริษฐ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำขอของประธานสภาฯ โดยระบุว่าในเชิงกฎหมายไม่มีเหตุผลที่จะต้องตัดชื่อ “บุคคลภายนอก” ออกจากเนื้อหาของญัตติ เนื่องจากรัฐธรรมนูญและข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาฯ ตัดสินว่าเนื้อหาของญัตติควรจะเป็นอย่างไร อีกทั้งในข้อบังคับข้อ 176 ก็ไม่ได้ระบุถึงการตัดสินใจเรื่องเนื้อหาของญัตติ หากไม่พบข้อบกพร่องในรูปแบบการยื่นญัตติ

นอกจากนี้ นายพริษฐ์ยังกล่าวว่า แม้จะอ้างข้อบังคับข้อ 176 ในการแจ้งให้แก้ไขข้อความในญัตติ แต่กรณีนี้ไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่ข้อบังคับกำหนดไว้ เพราะประธานสภาฯ ได้แจ้งให้พรรคฝ่ายค้านแก้ไขญัตติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งเกินกรอบเวลา 7 วันตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้

“ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่มีอำนาจตัดสินว่าเนื้อหาของญัตติควรมีการปรับแก้ตามความเหมาะสมหรือไม่” นายพริษฐ์กล่าวในโพสต์

ในส่วนของการกล่าวถึงบุคคลภายนอก นายพริษฐ์เน้นว่า การระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติไม่ได้ผิดข้อบังคับแต่อย่างใด เพราะข้อบังคับไม่ได้ห้ามการอภิปรายถึงบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน

“ทักษิณ ชินวัตรเองก็เคยพูดหลายครั้งว่าเขามี ‘สทร.’ หรือ ‘เสือกทุกเรื่อง’ ในการบริหารรัฐบาลนี้ เพราะฉะนั้นการระบุชื่อเขาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นการอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ ไม่ใช่การโจมตีส่วนบุคคล” นายพริษฐ์กล่าวย้ำ

นายพริษฐ์ตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของประธานสภาฯ ว่าเหตุใดถึงต้องมีการขอให้ตัดชื่อทักษิณออกจากญัตติ ทั้งที่การพูดถึงบุคคลภายนอกในกรณีนี้เป็นการวิเคราะห์การบริหารงานของรัฐบาลและเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการรู้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ในรัฐบาลนี้